ประกันภัยหัวแพทย์แกล้งผู้บริโภคอ้างว่าเอกสารไม่น่าเชื่อถือ ก็ไม่ต้องจ่ายได้อย่างนั้นหรือ ?

  • หน้าแรก
  • ประกันภัยหัวแพทย์แกล้งผู้บริโภคอ้างว่าเอกสารไม่น่าเชื่อถือ ก็ไม่ต้องจ่ายได้อย่างนั้นหรือ ?

ประกันภัยหัวแพทย์แกล้งผู้บริโภคอ้างว่าเอกสารไม่น่าเชื่อถือ ก็ไม่ต้องจ่ายได้อย่างนั้นหรือ ?

          วันนี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์โดยทนายอาร์ม ศุภสิทธิ์ ศิริ มีเรื่องราวเป็นอุทาหรณ์จะมาพูดถึงในหัวข้อเรื่อง ประกันไม่จ่าย ประกันภัยหัวแพทย์แกล้งผู้บริโภคอ้างว่าเอกสารปลอม เอกสารไม่น่าเชื่อถือ เพื่อมาปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งในกรณีที่จะเล่าต่อไปนี้ผู้เสียหายเป็นชาวพม่าที่ต้องสูญเสียสามีจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ หนำซ้ำยังต้องมาเจอบริษัทประกันไม่จ่าย ไม่ใยดีต่อความสูญเสียในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน  

          เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการที่ประกันไม่จ่าย บริษัทประกันภัยบริษัทหนึ่งได้มีการกลั่นแกล้งอ้างต่อผู้เสียหายว่าเอกสารไม่ครบถ้วน เอกสารปลอม ไม่น่าเชื่อถือ จึงจะไม่ขอจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหาย สำหรับประเด็นนี้ทนายอาร์มจึงขอมานำเสนอให้ผู้ติดตามทุกท่านได้ดูไว้เป็นกรณีตัวอย่าง เป็นอุทาหรณ์ว่าบริษัทประกันภัยหัวแพทย์ที่จ้องจะเอาเปรียบผู้บริโภคนั้นมีอยู่จริง หากไม่มีทนายความ และไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายระวังจะหลงเชื่อและถูกบริษัทประกันภัยเอาเปรียบได้

บริษัทประกันภัยหัวแพทย์ แกล้งอ้างว่าเอกสารไม่น่าเชื่อถือกับคนพม่า

          สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับผู้เสียหายชาวพม่าที่เป็นลูกความของสำนักงานเรา อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับบริษัทประกันไม่จ่าย ประกันภัยหัวแพทย์ที่ตั้งใจจะเอาเปรียบผู้เสียหายที่เป็นชาวพม่า ทำเอาชาวพม่าถึงกับเหวอเมื่อเจอบริษัทประกันภัยทำแบบนี้ใส่ขณะที่ตนต้องสูญเสียสามีจากเหตุการณ์อันเลวร้ายนี้ อีกทั้งความยุติธรรมยังไม่มีต่อตัวเธออีกเมื่อบริษัทประกันภัยอ้างว่าเอกสารที่เธอนำมาให้ต่อบริษัทนั้นเป็นเอกสารปลอม ไม่น่าเชื่อถือ !

          โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่จังหวะระยอง มีบริษัทประกันภัยรับประกันภัยไว้ทั้งหมดจำนวน 4 บริษัทด้วยกัน ได้เกิดอุบัติเหตุชนชาวพม่าเสียชีวิต โดยชาวพม่าที่เสียชีวิตนั้นเป็นผู้โดยสาร ด้วยความที่เป็นชาวพม่า เอกสารที่เกี่ยวกับการรับรองความถูกต้องนั้นได้ถูกบริษัทประกันภัยบริษัทหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ยอมจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหาย ในขณะที่อีก 3 บริษัทจ่ายหมด เมื่อมาถึงตรงนี้ปัญหาที่ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยก็คือ เพราะเหตุใดบริษัทประกันภัยที่จัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย ถึงไม่ยอมทำตามกฎหมาย ? ทั้ง ๆ ที่กฎหมายได้มีระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เรื่องของหลักสุจริตอย่างชัดเจนแล้ว

          แต่เพราะเหตุใดบริษัทนี้กระทำเหมือนแกล้งให้คนไม่ได้เงิน และเมื่อไม่ได้เงินแล้วก็ให้ผู้ประสบภัยที่ไม่ได้เงินไปฟ้องเอา หากคนไหนไม่ฟ้องก็เท่ากับว่าบริษัทประกันไม่จ่าย แบบนี้ก็มีด้วยหรือ ? หลังจากนั้นจึงได้ไปร้องเรียนที่คปภ. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมธุรกิจประกันภัย แต่คปภ.ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก ผลสุดท้ายจึงได้นำคดีไปฟ้องต่อศาลตามที่บริษัทประกันภัยประสงค์และต้องการ ในเมื่อประกันไม่จ่ายก็ต้องมาสู้กันในศาลสักตั้งหนึ่ง เมื่อผู้เสียหายมีทนายความนำเรื่องไปฟ้องศาล ประกันภัยกลับสู้ว่า “สงสัยว่าเอกสารปลอม” “สงสัยว่าเอกสารไม่น่าเชื่อถือ”

          ผลสุดท้ายในที่สุดหลังจากทนายอาร์มได้ดำเนินคดีนี้ ก็มีคำพิพากษาออกมาในที่สุดสำหรับคดีความของชาวพม่า โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินการทั้งหมด 6 เดือนด้วยกัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่รวดเร็วพอสมควรสำหรับคดีคุ้มครองผู้บริโภค  และในส่วนของคำพิพากษาศาลได้บอกอย่างชัดเจนว่า ประเด็นที่ฟ้องนั้นจำเลยต้องรับผิดตามสัญญาหรือไม่ สุดท้ายแล้วบริษัทประกันภัยที่สงสัยในตัวเอกสารของผู้เสียหายว่า เอกสารไม่น่าเชื่อถือ เอกสารสารปลอม ก็ต้องจ่ายต่อผู้เสียหายอยู่ดี เนื่องจากเป็นเรื่องของหลักสุจริต โดยศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 3 แสนบาท และดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อผู้เสียหาย ซึ่งเนื่องจากที่บริษัทประกันไม่จ่ายนั้น ถือเป็นการปฏิเสธผู้เสียหายโดยมิชอบ โดยอ้างเหตุว่า สงสัยว่าเอกสารปลอมหรือไม่ปลอม  อีกทั้งในกฎหมายได้เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ในกรณีที่เบิกค่าเสียหายเป็นเท็จ ต้องถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว

          หากบริษัทประกันภัยจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายตั้งแต่แรก และหากสงสัยว่าเอกสารปลอมหรือไม่น่าเชื่อถือจริง บริษัทก็ต้องพิสูจน์ และเมื่อพิสูจน์ได้แล้วว่าปลอมจริง ก็สามารถดำเนินคดีความกับผู้เสียหายต่อได้ทันที ไม่ใช่การที่ประกันไม่จ่ายมาแกล้งผู้เสียหายแบบนี้ ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย สุดท้ายสิ่งที่ทนายอาร์มอยากจะบอกไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเรื่องนี้ประกันไม่จ่ายว่า สิ่งที่บริษัทประกันทำนั้น เป็นการเหมือนแกล้งผู้ประสบภัยให้ไปฟ้องคดี ทั้ง ๆ ที่เอกสารครบถ้วนดีทุกประการ แต่กลับมาสงสัยว่าเอกสารไม่น่าเชื่อถือ เป็นเอกสารปลอม แล้วมาปฏิเสธประกันไม่จ่ายไม่ยอมจ่ายแบบนี้ สำหรับเรื่องทำนองเดียวกันนี้ไม่ได้มีแค่ชาวพม่าที่ต้องเจอ ยังมีเคสของคนไทยอีกหลายคนที่เคยถูกบริษัทประกันไม่จ่ายแกล้งอ้างว่าเอกสารปลอม,ไม่น่าเชื่อถือ ให้ไปฟ้องศาลมาสู้คดีเอา

ทนายอาร์มขอเตือน ! บริษัทประกันภัยมีทนายตั้งแต่ยังไม่มีเรื่อง เมื่อเกิดเหตุก็ควรมีทนายทันที

          และอีกสิ่งหนึ่งที่ทนายอาร์มจะไม่ย้ำเตือนไม่ได้เลยเกี่ยวกับเรื่องประกันไม่จ่าย เกี่ยวกับเรื่องความหัวแพทย์ของบริษัทประกันก็คือ บริษัทประกันภัยมีทนายความตั้งแต่ยังไม่ได้มีเรื่องราวใดเกิดขึ้น มีทนายความที่พร้อมสู้คดีกับประชาชน หรือผู้บริโภคตาดำ ๆ  แต่สำหรับผู้บริโภคนั้น ไม่ได้มีทนายไว้รอเพื่อต้องสู้คดีกับใครและไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าเมื่อมีเหตุการณ์อุบัติเหตุเกิดขึ้น จะถูกบริษัทประกันภัยตอบแทนแบบนี้ สุดท้ายก็หลอกให้ไปฟ้องศาลเพื่อมาสู้คดีกันอยู่ดี ดังนั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่ารอให้ถูกบริษัทประกันภัยปฏิเสธ อย่ารอให้ประกันไม่จ่าย อย่ารอให้ถูกเอาเปรียบ เมื่อเกิดอุบัติเหตุรีบมีทนายไว้ปรึกษาทันที ประชาชนคนธรรมดาก็สามารถมีทนายความเพื่อปรึกษาและดำเนินการสู้คดีกับบริษัทประกันภัยหัวแพทย์ที่พร้อมจะเอาเปรียบได้ เกิดอุบัติเหตุเมื่อใด ปรึกษาทนายด่วน คลิก ติดต่อเรา สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ ยินดีให้บริการ