เข้าใจ “เส้นเงิน” คืออะไร? และเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอย่างไร? ความรู้ที่ทุกคนควรรู้ก่อนตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงิน

ในยุคที่การทำธุรกรรมทางการเงินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านมือถือ ธนาคารออนไลน์ และแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ คำว่า “เส้นเงิน” และ “ฟอกเงิน” กลายเป็นคำที่ปรากฏในข่าวและโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง หลายคนอาจเคยได้ยินว่า “เส้นเงินผิดปกติ”, “ตรวจสอบเส้นเงิน”, หรือ “เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน” แต่ไม่เข้าใจว่าคำเหล่านี้หมายถึงอะไร และสำคัญอย่างไรต่อชีวิตประจำวัน

บทความนี้จะอธิบายอย่างชัดเจนว่า เส้นเงินคืออะไร, ทำไมเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบ, และ เส้นเงินเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอย่างไร เพื่อให้คุณรู้เท่าทันและลดความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบ หรือถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงินโดยไม่ตั้งใจ

เส้นเงิน คืออะไร?

คำว่า “เส้นเงิน” หมายถึง เส้นทางการเคลื่อนไหวของเงิน ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางว่าเงินนั้นมาจากไหน ผ่านบัญชีใดบ้าง ถูกโอนต่อให้ใคร และถูกนำไปใช้ทำอะไร
ง่าย ๆ คือการ ไล่รอยการเดินทางของเงินทุกบาททุกสตางค์ เพื่อดูว่ามีความผิดปกติหรือไม่

เส้นเงินจึงมีความสำคัญมากในกระบวนการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับ

  • การฉ้อโกง
  • คดีแชร์ลูกโซ่
  • คดีพนันออนไลน์
  • คดีค้ามนุษย์
  • คดียาเสพติด
  • คดีไซเบอร์ทางการเงิน

หากเส้นทางเงินมีความผิดปกติ เช่น เงินโอนเข้าออกจำนวนมากเกินปกติ ไม่สัมพันธ์กับรายได้จริง หรือผ่านหลายบัญชีโดยไม่มีเหตุผล เจ้าหน้าที่มักจะตรวจสอบและเชื่อมโยงเพื่อหาแหล่งที่มาว่าเป็นเงินผิดกฎหมายหรือไม่

เส้นเงินเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอย่างไร?

คำว่า ฟอกเงิน หมายถึง การทำให้ “เงินผิดกฎหมาย” กลายเป็น “เงินถูกกฎหมาย” โดยซ่อนที่มาที่แท้จริงของเงิน มักทำผ่านบัญชีหลายชั้นเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบย้อนกลับ
ดังนั้น “เส้นเงิน” คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการตามรอย การฟอกเงิน นั่นเอง

กระบวนการฟอกเงินทั่วไปประกอบด้วย 3 ขั้นตอน

1. Placement – นำเงินผิดกฎหมายเข้าสู่ระบบ

ตัวอย่างเช่น

  • ฝากเงินสดจำนวนมากเข้าบัญชีบุคคล
  • โอนเข้าบัญชีม้า
  • เติมเข้ากระเป๋าดิจิทัล

2. Layering – ซ่อนรอยด้วยการโอนหลายชั้น

เช่น

  • โอนไปหลายบัญชี
  • โอนเร็วผิดปกติ
  • แตกยอดเป็นจำนวนเล็ก ๆ
  • ผ่านหลายแพลตฟอร์ม เช่น Wallet → ธนาคาร → Crypto → เข้าบัญชีคนอื่น

ขั้นตอนนี้เองที่ทำให้ “เส้นเงิน” ยุ่งเหยิงและตรวจสอบยากที่สุด

3. Integration – นำเงินกลับมาใช้แบบถูกกฎหมาย

เช่น

  • ซื้ออสังหา
  • เปิดร้าน
  • ซื้อรถ
  • ลงทุน
  • ใช้เป็นค่าใช้จ่ายปกติ

ดังนั้น เส้นเงินที่ซับซ้อนผิดปกติจึงเป็นสัญญาณสำคัญว่าอาจมีการฟอกเงินอยู่เบื้องหลัง

ตัวอย่างเส้นเงินผิดปกติที่อาจเข้าข่ายฟอกเงิน

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ตัวอย่างต่อไปนี้มักเกิดขึ้นจริงในหลายคดี:

1. เงินเข้าบัญชีจำนวนมากแต่ไม่สอดคล้องกับรายได้

เช่น รายได้ปกติเดือนละ 20,000 บาท แต่มีเงินเข้าออกหลักแสนทุกวัน
กรณีนี้อาจถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับธุรกรรมผิดกฎหมาย

2. การโอนเงินผ่านบัญชีหลายชั้นโดยไม่มีเหตุผล

ตัวอย่างเช่น
บัญชี A → บัญชี B → บัญชี C → บัญชี D ทั้งหมดภายใน 5 นาที
ลักษณะนี้เข้าข่าย Layering ของการฟอกเงิน

3. การให้ผู้อื่นใช้บัญชี (“บัญชีม้า”)

มิจฉาชีพอาจขอใช้บัญชีเพื่อรับเงินแล้วโอนต่อเพื่อซ่อนเส้นทางเงิน
เจ้าของบัญชีจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยโดยทันที

4. เงินมาจากการลงทุน/งานออนไลน์ที่ไม่โปร่งใส

บางแพลตฟอร์มใช้ผู้ลงทุนเป็นเครื่องมือฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว

เส้นเงินที่ผิดปกติมีผลกระทบอย่างไร?

ผลกระทบอาจร้ายแรงกว่าที่คิด เช่น

  • บัญชีถูกอายัด
  • ทรัพย์สินถูกตรวจสอบ
  • ต้องพิสูจน์ว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม
  • กระทบเครดิต การกู้เงิน และชื่อเสียง
  • มีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน
  • เสียโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

การถูกตรวจสอบเส้นเงินเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นทุกคนควรรู้จักป้องกันตัวเอง

จะป้องกันไม่ให้เส้นเงินของตนเองเสี่ยงต่อการฟอกเงินได้อย่างไร?

 1. ไม่ให้ใครใช้บัญชีเด็ดขาด

ต่อให้เป็นเพื่อนสนิท ก็ไม่ควรให้ยืมบัญชี
บัญชีคือ “เส้นเงิน” ของคุณ และคุณต้องรับผิดชอบเสมอ

 2. ตรวจสอบทุกยอดที่ไม่รู้ที่มา

หากมีเงินเข้าผิดปกติให้แจ้งธนาคารทันที

 3. หลีกเลี่ยงงานฝากรับเงิน-โอนเงิน

งานลักษณะนี้มักเป็น “ช่องทางฟอกเงิน”

 4. เก็บหลักฐานการเงินทุกชนิด

เช่น

  • สลิป
  • ใบเสร็จ
  • แชทตกลงซื้อขาย
  • สัญญาต่าง ๆ

หลักฐานเหล่านี้สามารถพิสูจน์เส้นเงินของคุณได้

 5. ใช้ธุรกรรมผ่านบัญชีที่โปร่งใส

หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมผ่านหลายบัญชีแบบไม่จำเป็น

6. หากสงสัยว่าตัวเองเกี่ยวข้อง ต้องรีบปรึกษาทนายความ

ยิ่งรีบแก้ไขเร็วเท่าไร ความเสียหายยิ่งลดลง

หากถูกตรวจสอบเส้นเงินหรือถูกกล่าวหาว่าฟอกเงิน ต้องทำอย่างไร?

1.ติดต่อทนายความทันที

2.เตรียมเอกสารการเงินย้อนหลังให้ครบที่สุด

3.หยุดธุรกรรมที่มีปัญหา

4.ให้ทนายความเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

5.อธิบายเส้นเงินด้วยหลักฐานเท่านั้น ไม่ใช่คำบอกเล่า

สิ่งสำคัญที่สุดคือ
อย่าให้ปากคำหรือชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยตัวเองโดยไม่มีทนาย
เพราะอาจถูกตีความผิดพลาดและนำไปสู่การถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินได้

เส้นเงินกับการฟอกเงินคือเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด

แม้หลายคนอาจคิดว่าเรื่องฟอกเงินเป็นเรื่องของอาชญากร แต่ในความจริงทุกคนมีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้อง “โดยไม่รู้ตัว” หากไม่ระวังเรื่องเส้นเงินของตัวเอง การรู้เท่าทันและทำธุรกรรมอย่างโปร่งใสเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความเสี่ยง และหากคุณถูกตรวจสอบเส้นเงิน หรือสงสัยว่ามีการฟอกเงินเกิดขึ้นกับบัญชีของคุณ การปรึกษาทนายความคือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดเพื่อลดปัญหาและปกป้องสิทธิของคุณตั้งแต่ต้น