“ภาษี” และ “สินสมรส” อาจดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะคนที่เพิ่งแต่งงานหรือเพิ่งเริ่มต้นสร้างครอบครัว แต่แท้จริงแล้ว การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง “สินส่วนตัว” กับ “สินสมรส” มีผลต่อภาษีและการจัดการทรัพย์สินในชีวิตคู่มากกว่าที่คุณคิด
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับแนวคิดพื้นฐานของ “สินส่วนตัว” และ “สินสมรส” รวมถึงวิธีวางแผนภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ปัญหาภายหลัง และช่วยให้คุณสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สินส่วนตัว vs สินสมรส คืออะไร?

ก่อนจะพูดถึงภาษี เราต้องเข้าใจพื้นฐานของทรัพย์สินในชีวิตสมรสเสียก่อน ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทยได้แบ่งทรัพย์สินของคู่สมรสออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ:
1. สินส่วนตัว
คือ ทรัพย์สินที่เป็นของแต่ละฝ่ายโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึง:
- ทรัพย์สินที่มีมาก่อนแต่งงาน เช่น รถยนต์ส่วนตัว บ้านเดิมของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
- ทรัพย์สินที่ได้รับโดยทางมรดก หรือได้รับโดยพินัยกรรมที่ระบุว่าเป็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
- ทรัพย์สินที่เป็นของใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ
- ทรัพย์สินที่ใช้ประกอบอาชีพเฉพาะตัว เช่น เครื่องมือแพทย์ของแพทย์
2. สินสมรส
คือ ทรัพย์สินที่คู่สมรสร่วมกันได้มาในระหว่างสมรส เช่น:
- รายได้หรือเงินเดือนของทั้งสองฝ่าย
- ทรัพย์สินที่ซื้อด้วยเงินร่วมกัน หรือจากรายได้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในระหว่างสมรส
- ดอกผลของสินส่วนตัว (เช่น ดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินเก่าก่อนแต่งงาน)
สรุปสั้นๆ
“ถ้าได้มาก่อนแต่งงาน = สินส่วนตัว
ถ้าได้มาหลังแต่งงาน = สินสมรส (ยกเว้นมีเงื่อนไขเฉพาะ)”
แล้วเรื่องภาษีเกี่ยวข้องอย่างไร?

หลายคนเข้าใจว่าเรื่องภาษีเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เมื่อแต่งงานแล้ว สถานะสมรส มีผลโดยตรงต่อการจัดการภาษี โดยเฉพาะในเรื่องของ การยื่นภาษีรายได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91) และ การถือครองทรัพย์สินร่วมกัน
1. การยื่นภาษีแบบคู่สมรส
คู่สมรสสามารถเลือกได้ว่าจะ:
- ยื่นภาษีแยกกัน (แต่ละคนยื่นของตนเอง)
- หรือ ยื่นรวมกัน (สามีหรือภรรยายื่นรวมให้ฝ่ายหนึ่ง)
หากเลือกยื่นรวม อาจมีสิทธิในการหักลดหย่อนบางอย่างเพิ่มขึ้น เช่น ค่าลดหย่อนคู่สมรสที่ไม่มีรายได้
แต่ถ้ามีรายได้ทั้งคู่ การแยกยื่นภาษีอาจคุ้มกว่า เพราะช่วยลดฐานภาษีที่ต้องจ่าย
2. ทรัพย์สินร่วมต้องมีการวางแผนภาษี
ตัวอย่างที่พบบ่อย:
- ซื้อคอนโดร่วมกัน แต่จ่ายเงินคนเดียว → อาจมีปัญหาเรื่องภาษีเงินได้กรณีขายต่อ
- ใช้ชื่อคู่สมรสคนเดียวซื้อบ้าน → ภาษีค่าโอน ภาษีรายได้จากการขาย อาจถูกคิดทั้งหมดจากชื่อในโฉนด
การไม่วางแผนเรื่องภาษีตั้งแต่ต้น อาจทำให้เกิดความสับสนเวลาขายทรัพย์สิน หรือเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น การหย่าร้าง หรือเสียชีวิต
เทคนิควางแผนภาษีให้สอดคล้องกับสินสมรส

1. บันทึกแหล่งที่มาของทรัพย์สิน
- จดไว้เลยว่าเงินก้อนนี้ได้มาก่อนแต่งงานหรือหลังแต่งงาน
- มีหลักฐานหรือสัญญาแสดงความเป็นสินส่วนตัว เช่น สัญญากู้ยืม พินัยกรรม ใบโอนเงิน
2. พิจารณาการแยกบัญชี
- หากมีธุรกิจส่วนตัว แนะนำให้แยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีธุรกิจอย่างชัดเจน เพื่อความสะดวกในการคำนวณภาษี
- คู่สมรสสามารถมีบัญชีร่วมสำหรับใช้จ่ายครัวเรือน และบัญชีส่วนตัวสำหรับสินส่วนตัว
3. ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้ครบ
- ค่าลดหย่อนคู่สมรสไม่มีรายได้: ลดได้ 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนบุตร บิดา มารดา
- ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน (ในกรณีบ้านเป็นสินสมรส)
4. ทำข้อตกลงก่อนสมรส (Prenuptial Agreement)
- หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีทรัพย์สินจำนวนมาก อาจทำสัญญากำหนดชัดเจนว่าอะไรเป็นสินส่วนตัว เพื่อป้องกันความขัดแย้งภายหลัง
เคสตัวอย่าง: เข้าใจง่าย
กรณีที่ 1: ซื้อบ้านหลังแต่งงานโดยใช้เงินของฝ่ายชาย
- ถ้าไม่มีหลักฐานว่าเงินเป็นสินส่วนตัว → บ้านถือเป็นสินสมรส
- ถ้าหย่ากัน: ต้องแบ่งบ้านคนละครึ่ง แม้เงินมาจากฝ่ายเดียว
กรณีที่ 2: คู่สมรสยื่นภาษีรวมกัน แต่ฝ่ายหญิงมีรายได้สูงกว่าฝ่ายชาย
- การยื่นรวมอาจทำให้ฐานภาษีสูงขึ้น และเสียภาษีมากกว่ายื่นแยก
- แนะนำให้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจยื่น
เข้าใจภาษี เข้าใจสินสมรส ชีวิตคู่มีความสุข

การวางแผนภาษีควบคู่กับความเข้าใจเรื่องสินสมรสไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นเรื่องที่ จำเป็น โดยเฉพาะสำหรับคู่สมรสยุคใหม่ที่ต้องจัดการรายได้ ทรัพย์สิน และภาษีร่วมกัน
สิ่งที่ควรเริ่มทำทันทีคือ:
- เรียนรู้สิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
- แยกประเภททรัพย์สินให้ชัดเจน
- ขอคำปรึกษาจากนักบัญชีหรือทนายความเมื่อเริ่มลงทุน ซื้อบ้าน หรือทำธุรกิจร่วมกัน
เพราะการวางแผนตั้งแต่วันนี้ คือการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดในวันข้างหน้า — และช่วยให้ชีวิตคู่เดินหน้าอย่างมั่นคงทั้งในเรื่องความรักและการเงิน
วางแผนตั้งแต่ต้น ปรึกษาทนายความไว้ ไม่เสียหาย

แม้บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานของ ภาษี และ สินสมรส มากขึ้น แต่ในทางปฏิบัติ แต่ละคู่สมรสอาจมีรายละเอียดที่ซับซ้อนแตกต่างกัน เช่น ทรัพย์สินก่อนสมรสจำนวนมาก ธุรกิจร่วมกัน หรือมีทรัพย์สินในต่างประเทศ การวางแผนภาษีที่ดีจึงควรมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแล
การปรึกษาทนายความตั้งแต่ต้น จะช่วยให้คุณ:
- วางแผนทรัพย์สินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- จัดทำข้อตกลงก่อนสมรสหรือหลังสมรสได้อย่างรอบคอบ
- เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจน
- ป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจทำให้เสียเปรียบในอนาคต
เพราะเมื่อเข้าใจและวางแผนทุกอย่างไว้ตั้งแต่ต้น ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดภาษี แต่ยังช่วยปกป้องความสัมพันธ์และทรัพย์สินของคุณในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ
“รักกันไม่จำเป็นต้องกลัวเรื่องกฎหมาย แต่อย่าปล่อยให้กฎหมายกลายเป็นปัญหาภายหลัง”
เริ่มต้นวางแผนให้ถูกทางวันนี้ ด้วยการปรึกษากฎหมายกับผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ คลิก >>ติดต่อเรา<<














