จำนำรถแล้วรถหาย ทำยังไงดี? สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ ยินดีให้คำปรึกษาและดำเนินการครบวงจร

ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน “การจำนำรถ” กลายเป็นทางออกของใครหลายคนในการหมุนเงินระยะสั้น แต่สิ่งที่เจ้าของรถหลายคนคาดไม่ถึง คือกรณี “จำนำรถแล้วรถหาย” หรือ “จำนำรถแล้วติดต่อเต็นท์ไม่ได้” ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ที่นำรถไปจำนำกับเต็นท์หรือเอเจนซี่ที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง หรือไม่มีที่อยู่แน่นอน

เมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ หลายคนอาจตกใจ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน บางคนไม่กล้าแจ้งความ หรือคิดว่าไม่มีสิทธิ์เพราะรถอยู่ในสัญญาจำนำ แต่ในความเป็นจริงเจ้าของรถยังมีสิทธิ์ตามกฎหมาย และสามารถดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมได้ หากมีหลักฐานชัดเจนและดำเนินการถูกต้อง

ทำไม “จำนำรถแล้วรถหาย” ถึงเกิดขึ้นได้?

ส่วนใหญ่เกิดจากการนำรถไปจำนำกับเต็นท์ที่ไม่มีใบอนุญาต หรือกับบุคคลที่รับจำนำในนามส่วนตัว โดยไม่มีหลักฐานทางกฎหมายรองรับ เช่น สัญญาจำนำ, ใบรับรถ หรือหลักฐานการรับเงินที่ชัดเจน เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่สามารถติดต่อผู้รับจำนำได้ บางรายพบว่ารถถูกนำไปขายต่อหรือปล่อยเช่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

รูปแบบปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่

  • จำนำกับเต็นท์เถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตรับจำนำ
  • นายหน้านำรถไปส่งต่อให้ผู้อื่นอีกทอด
  • ไม่มีเอกสารหรือสัญญาจำนำที่เป็นลายลักษณ์อักษร
  • ผู้รับจำนำขายรถหรือเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนโดยไม่บอกกล่าว

ทั้งหมดนี้อาจเข้าข่ายความผิดฐานยักยอกทรัพย์หรือฉ้อโกงซึ่งเจ้าของรถสามารถดำเนินคดีได้

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ “จำนำรถ”

ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 747–756
ผู้รับจำนำมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินของผู้จำนำอย่างดี หากทำให้ทรัพย์สูญหาย ต้องชดใช้ค่าเสียหายเต็มจำนวน

และตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
หากผู้รับจำนำนำรถที่รับไว้ไปขายหรือใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ที่นำรถไปจำนำมีความผิดทางกฎหมายหรือไม่?

หากผู้ที่นำรถไปจำนำไม่ใช่เจ้าของรถตัวจริง หรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของรถอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่หากมีการ ขายต่อ โอนกรรมสิทธิ์ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพของรถ โดยมีเจตนาทุจริตและต้องการให้เจ้าของรถเสียประโยชน์ อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หรือแม้กระทั่งรับของโจร หากผู้รับจำนำรู้ว่ารถนั้นได้มาโดยมิชอบ

ดังนั้น ในกรณีที่คุณพบว่ารถของคุณถูกนำไปจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือถูกบุคคลอื่นหลอกให้โอนแล้วนำไปจำนำต่อ ควรรีบดำเนินการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัพย์สินสูญหายหรือถูกเปลี่ยนมือเพิ่มเติม

หากติดต่อเต็นท์รถไม่ได้อีกต่อไป ทำอย่างไรได้บ้าง?

หนึ่งในปัญหาที่พบมากที่สุดคือเต็นท์รับจำนำหาย ติดต่อไม่ได้ ปิดร้านหนี หรือเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของรถอย่างมาก

หากเกิดกรณีนี้ขึ้น ให้ดำเนินการดังนี้

1.ตรวจสอบหลักฐานการติดต่อย้อนหลัง
เช่น แชตที่เคยคุยกัน หลักฐานการโอนเงิน ใบเสร็จรับเงิน หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจำนำรถ เพราะหลักฐานเหล่านี้ใช้ยืนยันตัวตนของผู้รับจำนำและใช้เป็นข้อมูลในการแจ้งความ

2.แจ้งความดำเนินคดีทันที
ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และหากมีมูลให้ดำเนินคดีในข้อหายักยอกหรือฉ้อโกงทรัพย์

3.ตรวจสอบสถานะรถกับกรมการขนส่งทางบก
เพื่อดูว่ามีการโอนชื่อ เปลี่ยนเจ้าของ หรือมีการแจ้งสูญหายของทะเบียนหรือไม่

4.ปรึกษาทนายความโดยเร็วที่สุด
ทนายสามารถตรวจสอบเอกสารและให้คำปรึกษาที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้ เพื่อนำมาสู่การติดตามรถที่หายไปว่าปัจจุบันรถอยู่ที่ไหน

ทำไมควรให้ทนายความดำเนินการตั้งแต่ต้น?

ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมักพยายามเจรจาเอง แต่หลายครั้งกลับเสียเวลาและสูญเสียโอกาสในการติดตามรถ เพราะไม่รู้ขั้นตอนกฎหมายที่ถูกต้อง

ทนายความ จะสามารถดำเนินการให้คุณได้ในเรื่องต่อไปนี้:

  • ตรวจสอบสถานะและที่ตั้งของผู้รับจำนำ
  • ร่างหนังสือทวงถามหรือหนังสือแจ้งความอย่างถูกต้อง
  • ประสานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ฟ้องร้องเรียกคืนทรัพย์สินหรือค่าเสียหาย
  • ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของรถตามกฎหมาย

หากเกิดปัญหา “จำนำรถแล้วรถหาย” ติดต่อ สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์

เมื่อเกิดกรณี “จำนำรถแล้วรถหาย” อย่าปล่อยให้ความเสียหายลุกลามจนเกินควบคุม เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการดำเนินชีวิต การทำงาน และความมั่นคงทางการเงินของเจ้าของรถโดยตรง
สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ เข้าใจในความเดือดร้อนของผู้เสียหาย และพร้อมให้คำปรึกษา คำแนะนำกรณีจำนำรถหายโดยทนายความมืออาชีพอย่างครบวงจร

ไม่ว่าคุณจะกำลังประสบกับกรณีใดต่อไปนี้

  • จำนำรถกับเต็นท์หรือบุคคลแล้ว ติดต่อไม่ได้
  • รถถูก ขายต่อหรือโอนชื่อโดยไม่ยินยอม
  • หรือพบว่ารถถูก ยักยอกหรือเปลี่ยนมือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการติดตามอย่างเต็มที่ คลิก >>ติดต่อเรา<<

จำนำรถแล้วถูกดำเนินคดี ทำยังไงดี ใครประกันตัวได้?

การจำนำรถเป็นวิธีหนึ่งที่หลายคนเลือกใช้เมื่อต้องการเงินด่วนเพื่อนำไปใช้ในเรื่องจำเป็น อย่างไรก็ตาม หากการจำนำรถไม่ได้ทำอย่างถูกกฎหมาย เช่น จำนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ หรือจำนำกับผู้รับจำนำที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรถหรือผู้รับจำนำ อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาต่าง ๆ เช่น ยักยอกทรัพย์ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับของโจร ซึ่งการประกันตัวและการมีทนายความที่เชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปกป้องสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา

การจำนำรถคืออะไร และเมื่อไรถึงมีความผิด?

การจำนำรถ คือ การนำรถยนต์ไปมอบให้แก่ผู้รับจำนำ เพื่อเป็นหลักประกันในการกู้เงิน โดยที่ผู้รับจำนำจะเก็บรักษารถไว้จนกว่าผู้จำนำจะนำเงินมาชำระคืนพร้อมดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม การจำนำรถอาจกลายเป็นปัญหาทางกฎหมายได้ในกรณีต่อไปนี้

1. จำนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์
การนำรถที่ยังอยู่ภายใต้สัญญาเช่าซื้อ (ติดไฟแนนซ์) ไปจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากไฟแนนซ์ ถือเป็นการละเมิดสัญญาเช่าซื้อ และอาจถูกดำเนินคดีในข้อหา ยักยอกทรัพย์

2. จำนำกับผู้รับจำนำที่ไม่ได้รับอนุญาต
หากจำนำรถกับบุคคลที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจรับจำนำ อาจถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการสนับสนุนการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย

3. รถที่จำนำเป็นรถที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้รับจำนำอาจถูกดำเนินคดีในข้อหา รับของโจร หากรถที่นำมาจำนำเป็นรถที่ถูกขโมยมา

บทลงโทษสำหรับคดีจำนำรถผิดกฎหมาย

บทลงโทษที่เกี่ยวข้องกับคดีจำนำรถขึ้นอยู่กับลักษณะของความผิด เช่น

1. ข้อหายักยอกทรัพย์

  • มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. ข้อหารับของโจร

  • มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. ข้อหาประกอบธุรกิจรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต

  • มีโทษจำคุกและปรับตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับการประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย

ใครสามารถประกันตัวได้ เมื่อถูกดำเนินคดี?


การประกันตัวในคดีจำนำรถสามารถทำได้ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน ชั้นอัยการ และชั้นศาล โดยผู้ที่สามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวได้ ได้แก่

1. ตัวผู้ต้องหาเอง

  • ผู้ต้องหาสามารถยื่นขอประกันตัวได้โดยใช้อสังหาริมทรัพย์ หรือเงินสดเป็นหลักทรัพย์

2. ญาติหรือบุคคลใกล้ชิด

  • ญาติพี่น้อง หรือบุคคลใกล้ชิดสามารถช่วยยื่นคำร้องและจัดหาหลักทรัพย์สำหรับการประกันตัว

3. ทนายความ

ทนายความสามารถดำเนินการจัดการกระบวนการประกันตัวให้ผู้ต้องหาได้ โดยการเตรียมเอกสารและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างถูกต้องทั้งขั้นตอนและวิธีการ

ทำไมการปรึกษาทนายความจึงสำคัญ?

ในกรณีที่ถูกจับกุมในคดีจำนำรถ การมีทนายความที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ:

1. การให้คำปรึกษาเบื้องต้น

  • ทนายความสามารถอธิบายถึงข้อกล่าวหาและสิทธิที่ผู้ต้องหาควรได้รับ รวมถึงแนวทางในการต่อสู้คดี

2. การจัดการประกันตัว

  • ทนายความจะช่วยเตรียมเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นสำหรับการประกันตัว เช่น หลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน

3. การตรวจสอบการดำเนินคดี

  • ทนายความจะตรวจสอบว่าการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องหรือไม่ เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิของผู้ต้องหา

4. การต่อสู้คดีในชั้นศาล

  • หากคดีถูกส่งต่อไปยังศาล ทนายความจะช่วยดำเนินการสืบพยาน เจรจาลดหย่อนโทษ หรือยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ผู้ต้องหาได้รับผลประโยชน์ที่ดีที่สุด

ขั้นตอนเมื่อถูกกุมจับในคดีจำนำรถ

1. ตั้งสติและปรึกษาทนายความทันที

  • หากถูกจับกุม ควรติดต่อทนายความเพื่อรับคำปรึกษาและให้ทนายความดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายให้

2.      เตรียมหลักทรัพย์สำหรับประกันตัว

  • เตรียมเงินสดหรือทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัว และให้ทนายความดำเนินการจัดการ

3.      เก็บรวบรวมเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

  • เช่น สัญญาจำนำ ใบเสร็จ หรือหลักฐานที่แสดงความบริสุทธิ์

4.      ดำเนินการสู้คดีตามขั้นตอนกฎหมาย

  • ให้ทนายความช่วยดำเนินการทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเจรจาในชั้นพนักงานสอบสวนไปจนถึงการต่อสู้คดีในชั้นศาล

ปรึกษาทนายผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเดินกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกทาง

การจำนำรถเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะหากไม่ทำตามกฎหมายอาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดี ซึ่งมีบทลงโทษร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อชีวิต การมีทนายความที่มีความเชี่ยวชาญสามารถช่วยให้กระบวนการทางกฎหมายเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งในเรื่องการประกันตัวและการต่อสู้คดี หากคุณหรือคนใกล้ชิดประสบปัญหาในเรื่องนี้ อย่ารอช้าที่จะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปกป้องสิทธิของคุณและหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้น ๆ