ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับบริษัทประกันภัยหัวแพทย์

  • หน้าแรก
  • ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับบริษัทประกันภัยหัวแพทย์

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับบริษัทประกันภัยหัวแพทย์

          สำหรับผู้ใช้รถหลาย ๆ ท่านอาจจะรู้จักกับคำว่า ค่าขาดประโยชน์ หรือ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ กันดีอยู่แล้วว่าคือค่าชดเชยเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุซึ่งเจ้าของรถหรือผู้เอาประกันภัยจะได้รับจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณีซึ่งเป็นฝ่ายผิดในช่วงระหว่างที่รถของผู้เอาประกันภัยกำลังจัดซ่อมอยู่  โดยค่าขาดประโยชน์นั้นจะได้รับก็ต่อเมื่อเริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้เสียหายได้นำรถเข้าอู่ซ่อม โดยจะรวมวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ วันหยุดราชการ และวันอื่น ๆ  จนถึงวันที่รถของผู้เสียหายจัดซ่อมแล้วเสร็จ

          ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถนั้น คปภ. หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย ก็ได้มีการกำหนดค่าขาดประโยชน์ในอัตราขั้นต่ำขึ้นก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและหรือผู้เสียหายที่ต้องการจะเรียกร้องในส่วนของค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ อีกทั้งยังเพื่อลดปัญหาในการร้องเรียนของประชาชนด้วย วันนี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ก็ได้นำข้อมูลความรู้เกี่ยวกับค่าขาดประโยชน์ มาฝากสำหรับใครที่ยังไม่รู้ และสำหรับเพื่อเป็นความรู้เผื่อว่าในอนาคตรถของท่านเกิดอุบัติเหตุแล้วอย่าลืมเรียกค่าขาดประโยชน์กัน

คปภ. กำหนดหลักเกณฑ์อัตราขั้นต่ำ “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” ดังนี้

       -รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง สามารถได้รับค่าขาดประโยชน์ได้ไม่ต่ำกว่า 500 บาท/วัน

       -หากเป็นรถยนต์สาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง ก็สามารถได้รับค่าขาดประโยชน์ได้ไม่ต่ำกว่า 700 บาท/วัน

       -นอกจากนี้รถยนต์ที่มีขนาดเกิน 7 ที่นั่ง สามารถได้รับค่าขาดประโยชน์ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000บาท/วัน

       อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนั้นถึงแม้ว่าคปภ.จะมีการกำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถให้แก่ประชาชนผู้เสียหายแล้ว แต่ก็ยังมีบริษัทประกันภัยหัวแพทย์ที่ถึงแม้ว่ารถของผู้เสียหายจะได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงไหน แต่บริษัทประกันภัยก็ยังหาเหตุผลข้ออ้างต่าง ๆ มาปฏิเสธผู้เสียหาย ไม่ยอมจ่ายค่าขาดประโยชน์ให้กับผู้เสียหายจนผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรมในส่วนนี้หลายท่าน

ถ้าบริษัทประกันภัยไม่ยอมจ่ายค่าขาดประโยชน์ฯ ต้องทำอย่างไร ?

          สำหรับหลายท่านอาจจะทราบกันแล้วว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุและรถยนต์ได้รับความเสียหายท่านสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากบริษัทประกันภัยได้ และหรือหากบริษัทประกันภัยไม่ยอมจ่ายในส่วนของค่าขาดประโยชน์ก็สามารถไปร้องเรียนที่คปภ. ได้ทันที แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปดำเนินเรื่องเอง สามารถให้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ดำเนินคดีเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากบริษัทประกันภัยได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปเดินเรื่องหรือทำตามขั้นตอนเอง เพราะการที่คุณไปเดินเรื่องเองนั้น นอกจากจะทำให้เสียเวลาในการเดินทางเดินเรื่องแล้ว อาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าในเรื่องของคุณได้และทำให้คุณได้รับค่าขาดประโยชน์ล่าช้าในท้ายที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างเคสผู้เสียหายถูกประกันภัยหัวแพทย์เอาเปรียบไม่จ่ายค่าขาดประโยชน์

          ผู้เสียหายท่านนี้ได้ให้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ดำเนินคดีร้องเรียนค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ได้ประสบอุบัติเหตุในเวลากลางคืน โดยผู้เสียหายได้เล่าว่ารถของเพื่อนจอดเสียอยู่ข้างถนน และรถของผู้เสียหายได้จอดอยู่หน้ารถของเพื่อน ต่อมาได้มีรถของคู่กรณีชนท้ายเข้ากับรถของเพื่อน เป็นเหตุให้รถของเพื่อนกระเด็นมาชนรถของผู้เสียหายจนมีสภาพหงายท้องตกข้างทาง ได้รับความเสียหายรอบคัน แต่เมื่อไปคุยกับบริษัทประกันแล้ว พบว่าบริษัทประกันภัยกลับหัวหมอไม่ยอมจ่ายเสียหายใด ๆ เลย หลังเกิดเหตุผู้เสียหายก็ได้คิดไว้แล้วว่ากว่าประกันจะรับผิดชอบอาจใช้เวลานาน เพราะทางประกันไม่ยอมติดต่ออะไรมาเลย จึงคิดได้ว่าหากนิ่งรอประกันภัยและไม่ทำอะไรสักอย่างตัวผู้เสียหายเองก็อาจจะไม่ได้การรับผิดชอบค่าเสียหายอะไรจากบริษัทประกันภัยเลย อีกทั้งยังต้องเสียเวลาอีกด้วย จึงตัดสินใจติดต่อหาทนายเพื่อเข้าดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหาย อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปติดต่อเดินเรื่องเอง อีกทั้งความลำบากที่ได้รับมาถือว่าลำบากพอสมควร เนื่องจากผู้เสียหายต้องใช้รถทุกวันในการทำงานเวลากลางคืน และต้องไปรับ-ส่งคุณพ่อฟอกไตในเวลากลางวันด้วย จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ที่ประกันภัยไม่ยอมจ่ายค่าขาดประโยชน์ และค่าเสียหายอื่น ๆ ทำให้ผู้เสียหายไม่มีรถใช้เป็นเวลาเกือบ 1 ปี สุดท้ายปรึกษาทนายคือทางออกที่ดีที่สุด

          สำหรับใครที่กำลังถูกบริษัทประกันภัยหัวแพทย์ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ มาปฏิเสธปัดความรับผิดชอบเหมือนอย่างเคสคดีนี้ ต้องรีบติดต่อหาทนายความด่วน เพราะบริษัทประกันภัยมีทนายไว้ตั้งแต่ยังไม่มีเรื่องราว แต่ประชาชนคนธรรมดาที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมีคดีความ วันหนึ่งเมื่อเกิดปัญหามีทนายไว้อุ่นใจที่สุด