ตามให้ทันมุกใหม่!! แก๊งคอลเซ็นเตอร์

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพออนไลน์ตัวร้ายในยุค 2024 ที่เทคโนโลยีและการสื่อสารยิ่งมีความก้าวหน้า การหลอกลวงผ่านทางโทรศัพท์หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงและวิธีการที่ซับซ้อนขึ้น เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายเชื่อถือและให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ เช่น ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว วันนี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์จะพาให้คุณเข้าใจมุกใหม่ๆ ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมนำวิธีป้องกันและรับมือหากคุณถูกหลอกโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาฝากกัน

รูปแบบใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ในปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่เพียงแต่หลอกด้วยวิธีเดิมๆ ที่ใช้การข่มขู่ผ่านโทรศัพท์เท่านั้น คาดว่าเพราะคนไทยรู้ทันมุกต่างๆของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่วาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พัฒนาวิธีการใหม่ๆ เพื่อให้เหยื่อเชื่อถือมากขึ้น วันนี้เรามาดูมุกรูปแบบที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักใช้ในปัจจุบันกัน

1. แกล้งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานทางกฎหมาย

หนึ่งในมุกใหม่ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้คือการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศาล หรือหน่วยงานรัฐ โดยจะข่มขู่ว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน คดียาเสพติด หรือคดีอาญาร้ายแรง หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เช่น การโอนเงินเพื่อปิดคดีหรือจ่ายค่าปรับ อาจถูกจับกุมหรือถูกดำเนินคดี นอกจากนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังมักสร้างหลักฐานปลอม เช่น หมายจับหรือเอกสารทางกฎหมายเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วย

2. แกล้งเป็นพนักงานธนาคารหรือบริษัทการเงิน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักจะอ้างว่ามาจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน แจ้งเตือนว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายถูกแฮกหรือมีการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ โดยขอให้ผู้เสียหายยืนยันตัวตนผ่านการบอกรหัส OTP หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ซึ่งเป็นการเปิดทางให้มิจฉาชีพสามารถเข้าถึงบัญชีหรือข้อมูลทางการเงินได้

3. การหลอกว่าได้รับรางวัลใหญ่

อีกหนึ่งมุกยอดฮิตคือการโทรแจ้งว่าผู้เสียหายถูกรางวัลจากบริษัทใหญ่ หรือได้รับของรางวัลมีมูลค่าสูง เช่น รถยนต์ เงินสด หรือโทรศัพท์มือถือ โดยขอให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าภาษีหรือค่าดำเนินการเพื่อรับรางวัล การหลอกลวงในรูปแบบนี้ทำให้หลายคนเสียเงินโดยที่ไม่เคยได้รับรางวัลตามที่อ้าง

4. หลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์

นอกจากมุกที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังได้ขยายการทำงานไปยังสื่อสังคมออนไลน์ โดยสร้างโปรไฟล์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ เช่น แอบอ้างเป็นพนักงานธนาคาร เจ้าหน้าที่รัฐ หรือบริษัทใหญ่ๆ จากนั้นจะติดต่อผู้เสียหายเพื่อให้ตกหลุมพราง โอนเงิน หรือให้ข้อมูลสำคัญส่วนตัวนั่นเอง

วิธีป้องกันและรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์

1. ตั้งสติและอย่ารีบเชื่อทันที

หากคุณได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขแปลกหรือมีคนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ควรตั้งสติและอย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลที่ได้รับทันที ไม่ควรทำตามคำสั่งหรือให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน รหัส OTP หรือเลขบัญชีธนาคาร เพราะเจ้าหน้าที่จริงๆ จะไม่มีการขอข้อมูลเหล่านี้ทางโทรศัพท์

2. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

หากคุณสงสัยว่าข้อมูลที่ได้รับเป็นความจริงหรือไม่ ควรตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง อย่าติดต่อไปยังหมายเลขที่คนโทรเข้ามาให้ เพราะอาจเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้คุณหลงเชื่อ

3. ไม่โอนเงินตามคำขู่

การข่มขู่ให้โอนเงินเพื่อปิดคดีหรือหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมเป็นเรื่องที่ผิดปกติ หากมีกรณีเกี่ยวกับกฎหมายจริงๆ เจ้าหน้าที่จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างชัดเจน และจะไม่มีการขอให้โอนเงินเพื่อยุติคดีทางโทรศัพท์

4. บล็อกและรายงานหมายเลขโทรศัพท์ต้องสงสัย

หากคุณได้รับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ควรบล็อกหมายเลขดังกล่าว และรายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือธนาคารที่ถูกแอบอ้าง เพื่อให้สามารถติดตามและดำเนินคดีกับมิจฉาชีพได้

5. ใช้แอปพลิเคชันป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์

   ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่สามารถตรวจสอบและบล็อกหมายเลขที่น่าสงสัยได้ เช่น Truecaller หรือ Whoscall แอปเหล่านี้จะช่วยกรองสายโทรเข้าที่มีความเสี่ยง และแจ้งเตือนเมื่อคุณได้รับสายจากมิจฉาชีพ

หากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก รีบปรึกษาทนายความด่วน

อย่างที่ทราบกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ไม่ควรมองข้าม แต่ด้วยการป้องกันและรับมือที่ถูกต้อง คุณสามารถหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ อย่าลืมตั้งสติทุกครั้งเมื่อได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จัก และหมั่นตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจทำสิ่งใด หากคุณสงสัยว่าคุณตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบและป้องกันความเสียหายต่อไป แตสำหรับเหยื่อหรือผู้เสียหายที่ถูกหลอกโดยมิจฉาชีพอย่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปแล้วเราขอแนะนำให้ปรึกษาทนายความเพื่อการเดินเรื่องที่รวดเร็วดีที่สุด ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินเรื่องเอง เพราะในปัจจุบันมีผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นจำนวนมาก การเดินเรื่องจากหน่วยงานต่างๆ อาจล่าช้าไปตามกัน การปรึกษาทนายความเพื่อการเดินเรื่องที่รวดเร็วและนำมาซึ่งได้ได้รับเงินที่ถูกหลอกไปคืนคือทางออกที่ดีที่สุดปรึกษาทนาย >>ติดต่อเรา<<

หรือหากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือการจัดการกรณีที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอื่นๆ สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์พร้อมให้บริการ ให้คำปรึกษา และยินดีให้บริการทางกฎหมายกับคุณในทุกสถานการณ์