เคสตัวอย่างเรียกค่าสินไหมทดแทนรถชน : พอมีทนายจ่ายง่าย ไม่ต้องรอให้ “หายดีก่อน”

อุบัติเหตุทางถนนถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดแล้ว สิ่งที่ผู้เสียหายทุกคนควรได้รับคือ สิทธิในการเรียกค่าสินไหมทดแทนรถชน เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงทั้งร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สิน ทว่าในความเป็นจริง หลายครั้งบริษัทประกันภัยกลับพยายามเลี่ยงหรือชะลอความรับผิดชอบ โดยใช้คำพูดที่ทำให้ผู้เสียหายลังเล เช่น “รักษาตัวให้หายดีก่อนแล้วค่อยมายื่นเรื่อง” ทั้งที่ตามกฎหมาย ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกร้องได้ทันทีตั้งแต่วันเกิดเหตุ

บทความนี้จะพาไปดูเคสของ นาย A ผู้บาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุรถชน ที่ตัดสินใจไม่หลงเชื่อคำพูดของบริษัทประกัน แต่เลือกปรึกษาทนายความและเดินหน้าดำเนินการทันที ผลลัพธ์คือได้รับค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็ว ต่างจากผู้ที่รอให้ “หายดีก่อน” อย่างสิ้นเชิง

เคสจริงที่สะท้อนปัญหา: รอไปก็เสียสิทธิ

นาย A ประสบอุบัติเหตุรถชนจนบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตอนแรกเมื่อครอบครัวติดต่อไปยังบริษัทประกัน กลับได้รับคำแนะนำว่า

“ให้รักษาตัวให้หายดีก่อน แล้วค่อยมาเรียกร้องทีหลังก็ได้”

หากเป็นผู้เสียหายทั่วไปที่ไม่รู้สิทธิ อาจจะเชื่อตามคำแนะนำนี้ แล้วเลือกที่จะรอ แต่โชคดีที่นาย A ตัดสินใจไม่รอ เขาและครอบครัวเลือกปรึกษาทนายอาร์มจากสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ เพื่อให้ดำเนินเรื่องเรียกค่าสินไหมทดแทนรถชนทันที แม้ยังรักษาตัวไม่หาย

ผลลัพธ์ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะหลังจากสำนักงานของเราส่งหนังสือทวงถาม (โนติส) ไปยังบริษัทประกัน ไม่ถึง 1 เดือน บริษัทรีบติดต่อกลับมาขอชำระค่าสินไหมทดแทนโดยเร็ว

ทำไมบริษัทประกันไม่จ่ายตั้งแต่แรก ทั้งที่ก็จ่ายได้?

คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ทำไมบริษัทประกันไม่จ่ายตั้งแต่แรก ทั้งที่ก็จ่ายได้?”

คำตอบง่าย ๆ คือ การที่ผู้เสียหายไม่รู้สิทธิ หรือไม่มีทนายเป็นที่ปรึกษา ย่อมทำให้บริษัทประกันมีโอกาส ยืดเวลา เลี่ยงความรับผิดชอบ หรือจ่ายน้อยกว่าที่ควรจะจ่าย ได้ง่ายมาก

การพูดว่า “รอให้หายดีก่อน” ดูเผิน ๆ อาจฟังเหมือนเป็นคำแนะนำด้วยความห่วงใย แต่ความจริงแล้วนี่คือ กลยุทธ์ของบริษัทประกันภัย เพราะเมื่อถึงเวลาที่ผู้เสียหายรักษาหายดีแล้ว บริษัทมักใช้เหตุผลว่า

  • “ในเมื่อแผลหายแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายมาก”
  • “เดินได้เป็นปกติแล้ว จะเรียกร้องค่าเสียหายสูง ๆ ทำไม”

ผลก็คือ ผู้เสียหายถูกตีมูลค่าความเสียหายให้ต่ำกว่าความเป็นจริง ทั้งที่ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน และผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ได้เกิดขึ้นไปแล้วตั้งแต่วันแรกของอุบัติเหตุ

ดังนั้น การรอจนรักษาหายจึงไม่ใช่ข้อดี แต่เป็นการเสียเปรียบในคดีและเสียสิทธิในการเรียกค่าสินไหมทดแทนอย่างเต็มที่ ทั้งที่ความเสียหายสามารถประเมินและเรียกร้องได้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ

สิทธิของผู้เสียหาย: เรียกค่าสินไหมทดแทนรถชนได้ทันที

ตามหลักกฎหมาย ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถชนสามารถ เรียกค่าสินไหมทดแทนรถชน ได้ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

  • ค่ารักษาพยาบาล (ทั้งปัจจุบันและอนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น)
  • ค่าเสียรายได้ ระหว่างที่ต้องหยุดงาน
  • ค่าฟื้นฟูร่างกายหรือจิตใจ
  • ค่าเสียหายเชิงจิตใจ สำหรับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน
  • ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน เช่น ค่าซ่อมรถ ค่าของเสียหายอื่น ๆ

ที่สำคัญ หากคดีถึงศาล ศาลยังสามารถ “สงวนสิทธิ” ให้ผู้เสียหายเรียกร้องในอนาคตเพิ่มเติมได้อีก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเสียหายที่อาจปรากฏภายหลัง

ทำไมต้องมีทนายเดินเรื่องให้?

สิ่งที่เคสของนาย A สะท้อนอย่างชัดเจนคือ การมีทนายทำให้บริษัทประกันไม่กล้าเพิกเฉย เพราะทนายความรู้ช่องทาง รู้สิทธิ และรู้ทันเทคนิคทางกฎหมายของบริษัทประกันภัยเพื่อให้บริษัทรีบจ่ายตามความเสียหายจริง

ในขณะที่ผู้เสียหายทั่วไปอาจไปยื่นเรื่องเอง และต้องเจอกับคำตอบแบบเดิม ๆ เช่น

  • “เอกสารยังไม่ครบ”
  • “รอรักษาตัวให้หายก่อน”
  • “บริษัทจะพิจารณาให้อีกที”

ซึ่งทำให้เสียเวลาและเสียสิทธิอย่างมหาศาล

อย่าปล่อยให้คำพูดของประกันทำให้คุณเสียสิทธิ

เคสของนาย A แสดงให้เห็นชัดว่า การมีทนายเข้ามาเดินเรื่องให้ตั้งแต่ต้น ทำให้ เรียกค่าสินไหมทดแทนรถชน ได้อย่างรวดเร็วและเต็มจำนวน โดยไม่ต้องทนรอคำว่า “รักษาตัวให้หายดีก่อน” จากบริษัทประกัน

หากคุณหรือคนใกล้ตัวประสบอุบัติเหตุ อย่าปล่อยให้สิทธิหลุดลอยไปเพียงเพราะคำพูดของประกัน ควรรีบเก็บหลักฐาน ติดต่อทนายความ และดำเนินการเรียกร้องทันที เพื่อให้คุณได้รับความยุติธรรมและชดเชยความเสียหายอย่างแท้จริง

สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ พร้อมยืนเคียงข้างคุณทุกคดี

✍️ สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ นำโดย ทนายอาร์ม และทีมงานมืออาชีพ พร้อมยืนเคียงข้างคุณทุกคดี เพื่อให้คุณได้รับสิทธิและค่าสินไหมทดแทนที่ควรได้รับอย่างเต็มที่