อุทาหรณ์ ! ความไม่มี “ความรู้” เป็นเหตุถูกเอาเปรียบได้ง่ายสู่การตัดสินใจเดินทางจากร้อยเอ็ดเข้าปรึกษาทนาย

เมื่อความยุติธรรมกลายเป็นสิ่งที่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก คุณลุงจากที่ราบสูงจังหวัดร้อยเอ็ดจึงต้องเดินทางมาสู่กรุงเทพมหานครเพื่อเรียกร้องสิทธิและความยุติธรรมให้แก่ลูกชายวัย 18 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เรื่องราวของคุณลุงคือภาพสะท้อนของความเหลื่อมล้ำและการต่อสู้ที่ไม่ง่ายในระบบหรือหน่วยงานที่ควรจะปกป้องประชาชน

จุดเริ่มต้นอุบัติเหตุที่เปลี่ยนชีวิตเด็กหนุ่มวัย 18  

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุมาจากถูกรถขนอ้อยตัดหน้าเฉี่ยวชนขณะเด็กหนุ่มกำลังซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของเพื่อน ทำให้เขากระดูกต้นขาซ้ายหัก ข้อศอกซ้ายแตก ต้องเข้ารับการผ่าตัดใส่เหล็กดามและเย็บถึง 18 เข็ม ใช้เวลานอนโรงพยาบาลถึง 15 วัน จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อลูกชายของคุณลุง ทั้งร่างกายและจิตใจ ลูกชายวัย 18 ปีต้องเผชิญกับบาดแผลที่เกือบทำให้พิการถาวร และชีวิตทางการศึกษาของเขาต้องหยุดชะงัก การพักฟื้นและการรักษาที่ต้องใช้เวลานานทำให้เขาต้องออกจากโรงเรียน ส่งผลให้เสียโอกาสในชีวิตที่เคยวางแผนไว้

ในขณะที่คุณลุงพยายามเดินเรื่องเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและค่าเสียหายจากคู่กรณีและบริษัทประกันภัย การตอบสนองที่ได้รับกลับกลายเป็นความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า บริษัทประกันภัยเสนอค่าเสียหายเพียง 15,000 บาทเท่านั้น เพื่อชดเชยความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับลูกชาย ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง

การต่อสู้ที่ถูกบั่นทอนจากหน่วยงานและคนรอบข้าง

นอกจากคุณลุงไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทประกันภัยแล้ว คุณลุงยังถูกปฏิเสธความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่ควรจะเป็นที่พึ่งของประชาชน หน่วยงานอย่าง คปภ. กลับให้คำแนะนำให้คุณลุงยอมรับข้อเสนอที่ไม่เป็นธรรมของบริษัทประกันภัย เพื่อจบเรื่องโดยไม่มีการติดใจเอาความอีก ความผิดหวังเหล่านี้ทำให้คุณลุงรู้สึกถูกเอาเปรียบจากทั้งระบบ และความช้ำใจยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเขาต้องเผชิญกับคำดูถูกดูแคลนจากคนรอบข้างต่างๆ นานา

เดินเรื่องเองกว่าครึ่งปี สู่การตัดสินใจตรงดิ่งเข้าปรึกษาทนายในที่สุด

ตลอดระยะเวลาหลายเดือนกว่าครึ่งปี คุณลุงได้เดินทางไปกลับหลายสิบครั้งเพื่อหาทางออกที่ยุติธรรมเพื่อลูกชาย แต่กลับต้องพบกับความล้มเหลวในทุกครั้ง การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงความเหนื่อยล้าทางกาย แต่ยังต้องเผชิญกับความกดดันทางใจอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ความเป็นพ่อที่รักลูกอย่างสุดหัวใจทำให้เขาไม่ยอมแพ้ เขาตัดสินใจเดินทางมายังกรุงเทพฯ เพื่อหาทนายความที่สามารถให้บริการทางกฎหมายที่จะสามารถหาทางออกของความยุติธรรมให้เขาได้

ความเชื่อมั่นในสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์

ในที่สุด คุณลุงได้เข้าพบทนายอาร์ม จากสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญในด้านคดีประกันภัยและคดีความที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของผู้เสียหาย ทนายอาร์มและทีมงานได้รับฟังเรื่องราวของคุณลุงอย่างละเอียด พร้อมทั้งวางแผนการดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องสิทธิที่ควรจะได้รับอย่างยุติธรรม

สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ให้ความสำคัญกับกรณีของคุณลุง เพราะไม่เพียงแค่เป็นการให้บริการทางกฎหมายเพื่อความเป็นธรรมกับครอบครัวหนึ่ง แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่เข้าใจและพร้อมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในระบบที่ซับซ้อนนี้ ทีมงานของสำนักงานฯ ได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบเอกสารและหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด พร้อมทั้งเตรียมแนวทางทางกฎหมายที่จะให้คุณลุงและลูกชายได้รับความยุติธรรมจากประกันภัย

คลิปที่คุณต้องดู เปิดแง่มุมชีวิตของผู้เสียหายกับการเผชิญหน้ากับระบบที่ไม่เป็นธรรม

เรื่องราวของคุณลุงไม่ได้เป็นเพียงเหตุการณ์เฉพาะบุคคล แต่ยังเป็นบทเรียนและอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน ความสำคัญของการมีความรู้และที่ปรึกษาด้านกฎหมายในการต่อสู้เพื่อสิทธิของตนเองจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อช่วยสร้างความตระหนักรู้และไม่ตกเป็นเหยื่อของบริษัทประกันภัย ทางสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ได้จัดทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับกรณีของคุณลุงเพื่อเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเนื้อหาในคลิปไม่เพียงแค่บอกเล่าเรื่องราวความยากลำบากของคุณลุงในการที่ต้องเดินเรื่องเองเพียงลำพังเท่านั้น แต่ในคลิปยังได้บอกถึงความรู้สึกที่อยู่ในใจของคุณลุงที่ต้องถูกหน่วยงานต่าง ๆ เอาเปรียบ รวมไปถึงคนรอบข้างที่พร้อมเหยียบย้ำและซ้ำเติมคุณลุงด้วย

สำหรับผู้เสียหายท่านใดที่ได้อ่านเคสนี้ของคุณลุง และหรือใครที่ต้องการใช้บริการทางกฎหมายจากเรา หากสนใจติดตามเรื่องราวของคุณลุงและต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิและวิธีการดำเนินการทางกฎหมาย อย่าลืมกดไลก์ กดแชร์ และติดตามช่องทางของสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการประชาชนในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และจะไม่ยอมให้ผู้เสียหายต้องเผชิญกับความอยุติธรรมเพียงลำพัง