สำหรับใครที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องการ สูญเสียอวัยวะ จากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ วันนี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ ได้สรุปข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการ สูญเสียอวัยวะ ที่ไม่ใช่แค่สูญเสียอวัยวะเท่านั้น แต่เป็น “ทุพพลภาพถาวร” มาฝากกัน เนื่องจากในผู้เสียหายบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าที่ตนได้สูญเสียอวัยวะไปนั้น นั่นไม่ใช่เป็นเพียงกรณีสูญเสียอวัยวะเท่านั้น แต่มากกว่านั้น คือ ทุพพลภาพถาวร โดยวันนี้เราก็ได้ยกตัวอย่างคดีความหนึ่งที่ผู้เสียหายประสบอุบัติเหตุถูกรถชน และได้สูญเสียขาไป 1 ข้าง ที่เกือบจะถูกบริษัทประกันภัยเอาเปรียบโดยการเสนอจ่ายน้อย ทั้ง ๆ ที่ผู้เสียหายท่านนี้ไม่ใช่เพียง สูญเสียอวัยวะ เมื่อมาดูเรื่องราวแล้วพบว่าผู้เสียหายท่านนี้อยู่ในกรณีทุพพลภาพถาวร สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์จึงสู้คดีให้ผู้เสียหายท่านนี้ได้รับค่าสินไหมทดแทนตามคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 66/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่ว่า
–กรณีสูญเสียอวัยวะ 1 ข้าง ไม่ว่าจะเป็นข้อมือ , แขน , เท้า , ขา , หรือตา ฯลฯ กรณีใดกรณีหนึ่งบริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวน 250,000 บาท/คน
–กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร คือ หากประสบอุบัติเหตุแล้วสูญเสียอวัยวะ และหรือสูญเสียสมรรถภาพการใช้งานอวัยวะนั้นอย่างถาวรถึงขนาดไม่สามารถประกอบอาชีพหน้าที่ใด ๆ ในอาชีพประจำได้โดยสิ้นเชิงตลอดไป ยกตัวอย่างเช่น นักฟุตบอลอาชีพประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ต้องสูญเสียขา 1 ข้าง ทำให้นักฟุตบอลไม่สามารถใช้ขาประกอบอาชีพนักฟุตบอลได้อีกถาวร กรณีเช่นนี้ถือว่านักฟุตบอลต้องทุพพลภาพอย่างถาวร บริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนในจำนวน 300,000 บาท/คน
ตัวอย่างคดี : ผู้เสียหายประสบอุบัติเหตุขาขาด ถูกบริษัทประกันภัยเสนอจ่ายเพียง 250,000 บาท แต่สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ดำเนินคดีให้จนได้รับ 300,000 บาท
เรื่องราวที่นำมายกตัวอย่างให้ฟังวันนี้เป็นเรื่องราวของผู้เสียหายที่เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกเสียหลักเฉี่ยวชนขณะขายพวงมาลัยอยู่บนเกาะกลางถนน เป็นเหตุให้ผู้เสียหายต้อง #ขาขาด 1 ข้าง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียอวัยวะอย่างถาวรครั้งยิ่งใหญ่ของผู้เสียหายท่านนี้เลยก็ว่าได้ แม้ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกให้ผู้เสียหายต้องสูญเสียขา 1 ข้างไปแล้วนั้น ก็ยังไม่วายเกือบจะถูกบริษัท #ประกันภัย เอาเปรียบอีกหากไม่ได้มาเจอทนายอาร์มก่อน
เมื่อคราวเกิดเหตุนั้นผู้เสียหายได้มีการเจรจากับบริษัทประกันภัยของคู่กรณีในชั้นโรงพัก และทางบริษัทฯ ได้เสนอจ่ายเพียงกรมธรรม์ภาคบังคับในส่วนของการสูญเสียอวัยวะ “ขาขาด1ข้าง” จำนวน 250,000 บาท ให้แก่ผู้เสียหายเท่านั้น ซึ่งมันสมเหตุสมผลแล้วหรือ กับผู้เสียหายที่ต้องมาสูญเสียอวัยวะที่ใช้ในการดำเนินชีวิต
ผู้เสียหายจึงตัดสินใจปรึกษาสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ เมื่อเรื่องมาถึงมือ #ทนายอาร์ม พบว่าก็จริงอยู่ที่กรณีสูญเสียอวัยวะหรือขาขาดเพียง 1 ข้าง บริษัทฯ จะต้องจ่ายอยู่ที่ 250,000 บาท แต่เมื่อมาสืบทราบเรื่องราวดี ๆ แล้ว ในกรณีของผู้เสียหายท่านนี้ไม่ใช่เพียงแค่ #สูญเสียขาข้างหนึ่ง เท่านั้น แต่เป็น #ทุพพลภาพถาวร เนื่องจากผู้เสียหายมีอาชีพเดินขายพวงมาลัยตามท้องถนนและการสูญเสียขาในครั้งนี้ส่งผลให้ผู้เสียหายสูญเสียสมรรถภาพในการใช้ขาทำงานและไม่สามารถประกอบอาชีพประจำได้อย่างถาวรเช่นเดียวกัน ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องชดใช้ให้ผู้เสียหายในจำนวนเต็ม คือ 300,000 บาท จากกรณีดังกล่าวนี้ หากผู้เสียหายไม่ได้มาเจอ #ทนายอาร์ม และ #สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ ก่อนก็จะได้เพียงเท่าที่ประกันเสนอมาเท่านั้น คือ 250,000 บาท แต่ยังมีความโชคดีในความโชคร้ายอยู่บ้างที่มาเจอเราก่อนจึงได้รับค่าเสียหายในจำนวนเต็ม
ประสบอุบัติเหตุ “สูญเสียอวัยวะ” อย่าเพิ่งหลงเชื่อประกันภัย ลองปรึกษาทนายดูก่อน
จากกรณีตัวอย่างที่ได้ยกมานี้ สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ จึงอยากให้ความรู้และอยากเตือนภัยไปพร้อม ๆ กันสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ในเรื่องของการสูญเสียอวัยวะ เพราะการที่มนุษย์เราสูญเสียอวัยวะใด ๆ ไปก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ และมีผลกระทบทางจิตใจต่อผู้ที่ต้องสูญเสียมากพอสมควร และการที่บริษัทประกันภัยมาเสนอจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่น้อยกว่าความเสียหายที่แท้จริง การใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ มาเอาเปรียบผู้บริโภคนี้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งจะทำร้ายจิตใจผู้เสียหายเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงคงไม่มีใครต้องการสูญเสียอวัยวะใด ๆ ไปเพื่อแลกกับค่าสินไหมทดแทน เพราะนอกจากมันจะไม่คุ้มแล้ว มันยังไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา ดังนั้น หากคุณเป็นผู้ประสบอุบัติเหตุจนต้องสูญเสียอวัยวะใดไป อย่าเพิ่งหลงเชื่อประกันภัย ให้รีบติดต่อทนายโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นคุณอาจได้รับค่าเสียหายน้อยกว่าอาการบาดเจ็บที่คุณได้รับก็เป็นได้ ซึ่งอาการบาดเจ็บโดยที่ต้องสูญเสียอวัยวะใด ๆ ไปนั้น แน่นอนว่ามันไม่คุ้มเอาซะเลยกับที่จะต้องใช้ชีวิตโดยสูญเสียอวัยวะนั้นไปถาวร