ตั้งแต่สำนักงานทนายความของเราได้ดำเนินกิจการมา เรียกได้ว่ามีหลายเคสและหลายกรณีเลยทีเดียวที่ทนายอาร์มได้ดำเนินการ ฟ้องประกัน หากจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เห็นทีว่าจะ 90% เลยก็ว่าได้ โดยแต่ละเคสของผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากบริษัทประกันนั้น ส่วนใหญ่นั้นก็คงจะไม่พ้นในเรื่องที่บริษัทประกันภัยเอาเปรียบผู้เสียหายหรือผู้บริโภคประชาชนคนธรรมดานั่นเอง เรื่องราวความร้ายแรงหนักหนาสาหัสที่บริษัทประกันภัยได้กระทำต่อผู้เสียหายจนได้เกิดการดำเนินคดีความฟ้องประกันเกิดขึ้น วันนี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ก็มี 1 เรื่องราวที่อยากจะแชร์ต่อไว้เป็นอุทธาหรณ์เตือนใจใครหลายคนเกี่ยวกับเรื่องของบริษัทประกันภัยหัวแพทย์ที่กระทำต่อผู้เสียหายของเราท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ประสบอุบัติเหตุจนกะโหลกยุบ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เหตุใดทนายอาร์มต้องสุดทนจนฟ้องประกัน วันนี้เรามานำเสนอในรูปแบบของ Episode สรุปมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน
Ep.1 คดีกระโหลกยุบ
กรณีต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของนางสาว A ที่ทำให้ทนายอาร์มลุยเดินหน้าฟ้องประกันแบบไม่ลังเล โดยเรื่องราวของนางสาว A มีอยู่ว่า วันหนึ่งความโชคร้ายได้มาเยือน ขณะเธอขี่รถจักรยานยนต์กำลังเดินทางกลับบ้านเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเมื่อเธอประสบอุบัติเหตุถูกรถเก๋งพุ่งชนจนตัวเธอกระเด็นลอยเคว้งอยู่บนท้องถนน อุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นเหตุทำให้ศีรษะของเธอกระแทกพื้นอย่างแรง นางสาว A บาดเจ็บหนักสาหัสถึงขั้น #กะโหลกยุบ ต้องผ่าตัดเอากะโหลกเทียมใส่ อีกทั้งเธอยังต้องผ่าตัดกะโหลกอีกหลายครั้งต่อหลายครั้ง และยังต้องพักรักษาตัวนานอีกหลายเดือน ส่งผลให้เธอถูกบริษัทที่ทำงาน #เลิกจ้าง เนื่องจากไม่สามารถทำงานได้เต็มสมรรถภาพแล้ว เท่านั้นยังไม่พอคงถึงคราวโชคร้ายของนางสาว A จริง ๆ เมื่อเธอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขนาดนี้แล้วก็ยังต้องมาเจอ #ประกันภัยหัวหมอ ใส่ อ้างให้เธอไป รักษาตัวให้หายดีก่อน แล้วค่อยมาเรียกร้องทีหลัง แต่ในความโชคร้ายของเธอยังมีความโชคดีอยู่ เพราะเธอและสามีเอะใจไม่เชื่อคำประกันภัยบอก นางสาว A จึงไม่ทนให้ถูกเอาเปรียบทั้งที่บาดเจ็บหนัก ขณะที่เธอบาดเจ็บต้องนอนพักรักษาตัวนั้นสามีของเธอจึงได้ให้ #ทนายอาร์ม ดำเนินคดีให้ แต่ไม่วายเจอประกันภัยเจ้าเล่ห์ไม่หยุดจนต้องฟ้องประกัน ใน Step ต่อไป Ep.2 นางสาว A ได้ถูกประกันภัยหัวหมอใส่อย่างไร
Ep.2 คดีกระโหลกยุบ
จากที่ได้เกริ่นนำไปข้างต้นสำหรับกรณีนางสาว A ผู้ประสบอุบัติเหตุ #กะโหลกยุบ ที่ดันซวยซ้ำซวยซ้อนเจอ #ประกันภัยหัวหมอ เจ้าเล่ห์ใส่ หลังให้ #ทนายอาร์ม ดำเนินคดีฟ้องประกันให้ ก่อนอื่นต้องทราบประเด็นต่อไปนี้ก่อนว่า ปกติแล้วในคู่มือตีความได้ระบุและกำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่า กรณี #สูญเสียกะโหลก แบบนี้บริษัทประกันภัยต้องจ่ายภาคบังคับให้แก่นางสาว A จำนวน 250,000 บาท แต่ ๆ แต่…เมื่อมาเจรจาในชั้น #คปภ บริษัทกลับบอกว่า จะจ่ายภาคบังคับและภาคสมัครใจรวมกัน จำนวน 200,000 บาท (แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ?) ทางสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์จึงได้แจ้งให้บริษัททบทวนใหม่อีกครั้ง
ต่อมาได้มีการเจรจากันอีกครั้งที่ 2 บริษัทประกันภัยก็ยังหัวหมอไม่หยุด บอกว่าจะจ่ายภาคบังคับและภาคสมัครใจ “รวมกัน” ให้อีก 250,000 บาท จากครั้งที่แล้ว 200,000 บาท นั่นหมายความว่าในส่วนที่นางสาว A ต้องได้รับในส่วนภาคบังคับ 250,000 บาท บริษัทก็จ่ายไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไข แล้วแบบนี้จะไม่ให้เดินหน้าฟ้องประกันได้อย่างไร
สุดท้าย แต่ ! ไม่ท้ายสุด…บริษัทประกัน #ยอมจ่าย ภาคบังคับที่นางสาว A ต้องได้รับเต็มจำนวน และเรารับในส่วนนี้ อีกทั้งบริษัทเสนอจ่ายภาคสมัครใจจำนวน 300,000 บาท แต่เรายังมองไม่เห็นว่านางสาว A ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควรจะได้รับ เพราะบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ แถมยังถูกประกันภัยจ้องเอาเปรียบอยู่ตลอดอีก ทางเราจึงไม่รับข้อเสนอ จึงมาถึงเรื่องราวในขั้นตอนต่อไป คือ #ทนายอาร์ม ดำเนินการฟ้องประกันทันทีแบบไม่ลังเล
Ep.3 คดีกระโหลกยุบ
สำหรับคดีของนางสาว A ผู้เสียหาย #กะโหลกยุบ ที่ถูกบริษัท #ประกันภัย จ้องจะเอาเปรียบหากไม่มีทนายช่วยฟ้องประกัน หลังไปเจรจาที่คปภ. แล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม #ทนายอาร์ม ต้องมาดำเนินการฟ้องประกันในชั้นศาล แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ! ผู้เสียหายยังโดน #ประกันหลอก ทั้งตัวผู้เสียหายเองและหลอกทั้ง “ศาล” เมื่อมาถึงในชั้นศาล…ทนายบริษัทประกันภัยก็หัวหมอมั่วอ้างทันทีว่า เคยได้จ่ายเงินให้กับนางสาว A ไปแล้วจำนวน 400,000 บาท แต่ ! ความจริงนางสาว A ไม่เคยได้รับเลย มาถึงขนาดนี้ก็ยังไม่วายจะเอาเปรียบผู้เสียหายอีก
Ep.4 คดีกระโหลกยุบ
มาต่อกันที่ Ep.4 สำหรับคดีของนางสาว A ผู้เสียหาย #กะโหลกยุบ หลายท่านที่ติดตามคงอยากรู้ว่าคดีนี้เรื่องราวจะจบลงอย่างไรเมื่อทนายอาร์มดำเนินการฟ้องประกันไปแล้ว สุดท้ายแล้วประกันภัยหัวหมอก็เจอ #ทนายอาร์ม คนจริงเรื่องคดีประกันภัยฟ้องประกัน เนื่องจากสุดทนกับพฤติกรรมของ #บริษัทประกัน ที่จ้องจะเอาเปรียบ ได้ดำเนินการให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีอย่างเป็นธรรมต่อนางสาว A ในที่สุดนางสาว A ก็ได้รับค่าเสียหายในส่วนของภาคบังคับเต็มจำนวน 250,000 บาท และภาคสมัครใจอีกจำนวน 700,000 บาท เป็นอันจบลงด้วยดี ด้วยเทคนิคและประสบการณ์ของทนายอาร์มที่มีอย่างยาวนานในการฟ้องประกัน
ติดตามเรื่องราวกันมาถึงตรงนี้ ถ้าอยากรู้ว่าผู้เสียหายหลังจากได้ #ทนายอาร์ม ช่วยเหลือฟ้องประกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง โปรดรอติดตาม Ep. ถัดไป คราวหน้าเราจะมาลงเป็นคลิปให้แฟนเพจได้รับชมกัน
สำหรับเคสฟ้องประกันของนางสาว A กว่าจะจบลงด้วยดีแบบนี้ก็เรียกได้ว่าถูกประกันภัยปฏิเสธไม่จ่าย ไม่รับผิดชอบสาหัสพอ ๆ กับอาการบาดเจ็บของนางสาว A เลยก็ว่าได้ สุดท้ายนี้อยากฝากถึงผู้ติดตามทุกท่านที่ติดตามกันมาถึงตรงนี้ เมื่อไรที่เกิดอุบัติเหตุไม่ต้องรอให้ถูกประกันภัยเอาเปรียบ ไม่ต้องรอให้เจอคำว่า รักษาตัวให้หายดีก่อน เพื่อมาปัดความรับผิดชอบ ขนาดเคสนางสาว A บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้บริษัทประกันภัยยังปฏิเสธไม่ใยดีต่ออาการบาดเจ็บได้ลงคอ ฟ้องประกันเท่านั้นคือคำตอบ อย่ารอให้รักษาตัวให้หายดีก่อนตามคำประกันภัยบอก เพราะนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่คุณจะถูกบริษัทประกันภัยเอาเปรียบ เมื่อถูกเอาเปรียบต้องเดินหน้าหาทนายฟ้องประกันเท่านั้น เพื่อความยุติธรรมของตัวคุณปรึกษาเราฟรีที่
สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงให้เป็นหน้าที่ของเราเพื่อเดินหน้าฟ้องประกันทันทีโดยไม่ลังเล