หลายท่านที่ติดตามสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ของเราคงคุ้นเคยและรู้จักกันเป็นอย่างดีสำหรับ ค่าขาดประโยชน์ หรือที่เรียกเต็ม ๆ ว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถนั่นเอง สำหรับเรื่องค่าขาดประโยชน์นี้ทั้งเฟซบุ๊กแฟนเพจหรือช่องยูทูปของสำนักงานของเราก็ได้นำเสนอให้เห็นบ่อย ๆ
กันสำหรับเคสคดีค่าขาดประโยชน์ เพราะมีผู้เสียหายหลายที่ได้รับความเดือดร้อนจากบริษัทประกันภัยที่มักทำพิษให้ผู้เสียหายเหมือนเช่นเคย มีผู้เสียหายหลายท่านได้เข้ามาปรึกษาทนายอาร์มเกี่ยวกับเรื่องเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจำนวนมาก โดยแต่คนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าไม่คิดเลยว่าประกันภัยจะหัวแพทย์ได้ขนาดนี้
ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะต้องมาดำเนินคดีให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าหากอยู่นิ่ง ๆ ไม่ทำอะไรเลย ก็ไม่มีทางที่จะได้รับความเป็นธรรม หรือแทบจะไม่มีวี่แววเลยที่ประกันภัยจะยอมจ่ายให้ จึงต้องโร่ปรึกษาทนายความที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการประกันภัยรถยนต์ดังเช่นทนายอาร์ม
อย่างที่กล่าวไปว่าหลายท่านที่ติดตามสำนักงานทนายของเราคงคุ้นเคยและเคยได้เห็นเคสตัวอย่างในเรื่องของค่าขาดประโยชน์กันมาบ้างแล้ว แต่ก็เชื่อเลยว่ายังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่เข้าใจคำว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคืออะไร จำเป็นต้องเรียกหรือไม่ วันนี้สำนักงานของเรามีคำตอบมาฝากทุกท่านกัน พร้อมนำเคสตัวอย่างมานำเสนอให้ชมกันเพื่อให้ทุกท่านได้เห็นว่าคดีค่าขาดประโยชน์นี้ผู้เสียหายแต่ละท่านเจอมาอย่างไร และเจอประกันภัยเอาเปรียบรูปแบบไหนบ้าง
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคืออะไร ?
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ ค่าสินไหมทดแทนหรือที่เรียกว่าเงินชดเชยที่เจ้าของรถฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากคู่กรณีได้ ค่าขาดประโยชน์นี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าเช่ารถระหว่างที่รถจัดซ่อมอยู่ที่อู่ โดยตามหลักผู้ที่ต้องจ่ายค่าชดเชยหรือค่าขาดประโยชน์จากการที่ทำให้เจ้าของรถฝ่ายถูกไม่มีรถใช้ก็คือ บริษัทประกันภัยของรถคู่กรณีฝ่ายผิดนั่นเอง แต่ถ้ารถของคู่กรณีไม่มีประกัน เจ้าของรถฝ่ายถูกก็สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์กับตัวคู่กรณีได้โดยตรง
เคสตัวอย่าง : รถหรูจอดเฝ้าอู่ ประกันนิ่งไม่ประเมินค่าซ่อม
เคสนี้รถยนต์หรูยี่ห้อเบนซ์เกิดเหตุเมื่อช่วงต้นปีของเดือนมกราคมที่ผ่านมา เสียหายยับขนาดนี้ดันเจอประกันภัยนิ่งใส่ให้รถหรูจอดเฝ้าอู่นานร่วม 2 เดือน ทั้งที่ควรจะเร่งรัดประเมินค่าซ่อมตั้งแต่เกิดเหตุ เดือดร้อนไม่มีรถใช้งานด้วยความรอนานประกันไม่ตอบรับไม่เห็นความคืบหน้า จนมาเจอ #ทนายอาร์ม จากคลิปใน Youtube รีบตรงเข้าปรึกษาเรียกร้องค่าขาดประโยชน์และตัดสินใจดำเนินคดีกับบริษัทประกันภัยที่ #สำนักงานกฎหมายวงกรณ์ ทันที หลังจากทนายอาร์มเดินเรื่อง บริษัทประกันยังอ้างว่าเป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศ หาอะไหล่ยาก ต้องใช้เวลาหาอะไหล่นาน อีกทั้งเสียหายหนักต้องใช้เวลาซ่อมนาน เมื่อเจอแบบนี้ก็ต้องเรียกค่าขาดประโยชน์ให้ผู้เสียหายอย่างสมเหตุสมผล
เคสตัวอย่าง : เบนซ์หน้ายุบ จอดอยู่เฉย ๆ ก็โดนชนประกันจ่าย 24,000
มาต่อกันที่เคสนี้เป็นรถเบนซ์โดนชนหน้ายุบ แต่บริษัทประกันเสนอจ่ายเพียง 24,000 เท่านั้นจนเกิดคำถามว่าน่าเกลียดไปไหม ? สำหรับกรณีแบบนี้เมื่อรถจอดอยู่ดี ๆ ก็โดนชนจนเสียหายยับ ประกันคู่กรณีออกหลักฐานรับผิดชอบความเสียหายให้ไป #เรียกร้องเอาค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนเอง จากที่เคยมีรถใช้ อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนไม่มีรถใช้ซะอย่างนั้น ให้ประกันจัดหารถเช่าก็แล้ว ให้จัดหาศูนย์เบนซ์ที่ซ่อมให้เร็วกว่า 30 วันก็แล้ว บริษัทประกันตัวดีก็ทำเพิกเฉย เท่านั้นยังไม่พอ ยังเสนอจ่ายค่าขาดประโยชน์ + #ค่าเสื่อม ของรถเบนซ์เพียง 24,000 เท่านั้น เหมาะสมแล้วหรือที่ต้องมาเสียเวลา #ทรัพย์สินเสียหาย ไม่มีรถใช้ต้องเช่ารถขับ แถมประกันยังมาทำแบบนี้อีกเอาเปรียบกันเกินไปไหม
จากกรณีดังกล่าวนี้ เป็นเคสที่เกิดขึ้นจริง บริษัทประกันเสนอจ่ายน้อยจริงทำเอาผู้เสียหายเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เอาเปรียบกันอย่างชัดเจนขนาดนี้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผู้บริโภคเข้าใจได้อย่างไรว่าประกันจงใจเอาเปรียบผู้บริโภค
เคสตัวอย่าง : อู่ประเมินคืนซาก ประกันบอกมีอู่ซ่อม 200,000
มาต่อกันที่เคสตัวอย่างที่สามรถยนต์พังยับขนาดนี้ ทั้งที่เป็นอู่ในเครือของประกันภัยประเมินให้ “คืนซาก” แต่ประกันดันบอก มีอู่ที่อื่นซ่อมได้ พร้อมจ่ายให้ 200,000 บาทเท่านั้น พอจริงหรือ ? เหมาะสมจริงหรือ ? ที่จะจ่ายแค่ 200,000 บาท รถพังยับขนาดนี้ ซ่อมแล้วจะเหมือนเดิมใช่ไหม ผู้เสียหายทนไม่ไหว โร่ปรึกษาทนายเรียกร้องค่าขาดประโยชน์พร้อมดำเนินคดีกับบริษัทประกันภัยตัวแสบอย่างเต็มที่ที่สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์
ไม่ว่าจะรถแพงรถหรูหรือรถไมแพงเมื่อเข้าอู่ซ่อมแล้วต้องรออะไหล่นาน มีประกันภัย แต่ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด ห้ามลืมเด็ดขาดว่าสามารถเรียก “ค่าขาดประโยชน์” ได้ #ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ไม่จำเป็นต้องรอให้ซ่อมเสร็จ สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากบริษัทประกันภัยได้เลย ไม่ว่ารถต้องใช้เวลาซ่อมหรือรออะไหล่นาน หรือไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด บริษัทมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการเสนอจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถให้แก่ผู้เอาประกันภัย
พบบริษัทประกันภัยบ่ายเบี่ยง เพิกเฉย ติดต่อยาก อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด! มิเช่นนั้นอาจถูกเอาเปรียบก็เป็นได้ ปรึกษาทนายความผู้มีความเชี่ยวชาญใช้แนวทางด้านกฎหมายในการเรียกร้องสิทธิค่าขาดประโยชน์และดำเนินคดีกับบริษัทประกันภัย ต้องทนายอาร์มแห่งสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ สำนักงานทนายความที่ดำเนินกิจการโดยทนายอาร์ม ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการประกันภัยมือหนึ่ง