ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาอยู่อาศัย ทำงาน ท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจเป็นจำนวนมากในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ในทางปฏิบัติ ชาวต่างชาติบางรายอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ไม่ว่าจะเป็นคดีอาญา คดีแรงงาน คดีเข้าเมือง หรือคดีอื่น ๆ ตามกฎหมายไทย
สิ่งสำคัญคือ แม้จะเป็นชาวต่างชาติ แต่เมื่ออยู่ในประเทศไทย ยังคงมีสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายไทย โดยเฉพาะสิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิในการประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม ซึ่งชาวต่างชาติจำนวนมากยังไม่ทราบข้อมูลเหล่านี้อย่างถูกต้อง
บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจว่า หากชาวต่างชาติถูกจับกุมในไทย สามารถทำอะไรได้บ้าง และสิทธิใดบ้างที่ต้องรู้ไว้เพื่อปกป้องตนเอง

1. สิทธิที่จะรู้ว่า “ถูกจับเพราะอะไร”
สิทธิขั้นพื้นฐานที่สุดของผู้ถูกจับกุม คือ สิทธิที่จะรับทราบข้อกล่าวหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ต้องแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนว่า
- ถูกจับในข้อหาใด
- เหตุแห่งการจับกุมคืออะไร
- อาศัยกฎหมายฉบับใดในการจับกุม
หากเจ้าหน้าที่ไม่แจ้งเหตุผล หรือแจ้งไม่ชัดเจน การจับกุมนั้นอาจ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสามารถนำมาใช้เป็นข้อโต้แย้งในชั้นสอบสวนหรือชั้นศาลได้
2. สิทธิในการพบทนายความทันที
เมื่อถูกจับกุม ชาวต่างชาติมีสิทธิขอพบทนายความได้ทันที
ไม่ว่าจะเป็น
- ทนายความที่ตนเองแต่งตั้ง
- หรือขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยประสานหาทนายความให้
ที่สำคัญคือ ผู้ถูกจับกุมมีสิทธิปรึกษาทนายความเป็นการส่วนตัวก่อนให้การ กับพนักงานสอบสวน การมีทนายตั้งแต่ต้นจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการสื่อสารผิดพลาด โดยเฉพาะในกรณีที่มีอุปสรรคด้านภาษา
3. สิทธิที่จะไม่ให้ถ้อยคำเป็นปรปักษ์ต่อตนเอง
ผู้ถูกจับกุมมีสิทธิ
- ไม่ให้การ
- ปฏิเสธการตอบคำถามบางประเด็น
- หรือรอให้ทนายความมาอยู่ด้วยก่อนให้การเป็นลายลักษณ์อักษร
สิ่งสำคัญที่ชาวต่างชาติหลายคนยังไม่ทราบคือ
👉 การไม่พูด ไม่ถือว่ามีความผิด
ในทางกลับกัน คำพูดทุกคำที่ให้ไป อาจถูกนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานในอนาคต ดังนั้นการใช้สิทธิอย่างรอบคอบจึงมีความสำคัญอย่างมาก
4. สิทธิในการแจ้งญาติ บุคคลที่ไว้วางใจ หรือสถานทูต
เมื่อถูกจับกุม ชาวต่างชาติมีสิทธิขอให้เจ้าหน้าที่
- ติดต่อญาติ
- ติดต่อบุคคลที่ไว้วางใจ
- และแจ้งสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศตนเอง
การแจ้งสถานทูตมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสถานทูตสามารถให้ความช่วยเหลือในด้านการประสานงาน การแปลภาษา และการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองตนเอง
5. สิทธิในการขอ “ประกันตัว” เพื่อออกมาต่อสู้คดี
หนึ่งในสิทธิที่สำคัญที่สุดคือ สิทธิในการขอประกันตัว
ตราบใดที่กฎหมายไทยยังเปิดช่องให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ถูกจับกุมสามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวได้ ไม่ว่าคดีจะอยู่ในชั้นใดก็ตาม ได้แก่
- ชั้นตำรวจ
- ชั้นอัยการ
- หรือชั้นศาล
การประกันตัวช่วยให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยสามารถออกมาต่อสู้คดีอย่างมีประสิทธิภาพ เตรียมเอกสาร พยาน และประสานงานกับทนายความได้ดีกว่าการถูกคุมขัง
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวต่างชาติ การขอประกันตัวอาจมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น
- หลักทรัพย์ประกัน
- ผู้ค้ำประกัน
- หรือเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
การมีทนายความที่เข้าใจกฎหมายไทยและบริบทของคดี จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการประกันตัวอย่างมาก
6. เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงหรือบังคับให้รับสารภาพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่มีสิทธิ
- ใช้ความรุนแรง
- ข่มขู่
- ทำร้ายร่างกาย
- หรือทรมานเพื่อบังคับให้รับสารภาพ
หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ถูกจับกุมสามารถ
- ร้องเรียน
- และใช้เป็นเหตุโต้แย้งความชอบด้วยกฎหมายของพยานหลักฐานได้
พยานหลักฐานที่ได้มาโดยไม่ชอบ อาจถูกศาลวินิจฉัยว่าใช้ไม่ได้ในคดี

เมื่อเกิดสถานการณ์ถูกจับกุม ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การรีบอธิบายหรือแก้ตัวในทันที แต่คือการรู้จักควบคุมสถานการณ์และใช้สิทธิของตนเองอย่างถูกต้อง หลายคดีเริ่มต้นจากความตื่นตระหนก พูดโดยขาดสติ หรือให้ถ้อยคำโดยไม่มีทนายความอยู่ด้วย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อรูปคดีในระยะยาว ดังนั้น หากคุณหรือคนใกล้ชิดถูกจับกุม สิ่งต่อไปนี้คือแนวทางพื้นฐานที่ควรทำทันที เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเองในกระบวนการยุติธรรม
1. ตั้งสติ
2. อย่าพูดเกินความเป็นจริง หรือพูดโดยไม่มีทนาย
3. รีบขอพบทนายความโดยทันที
เพราะทุกคำพูดอาจกลายเป็นหลักฐานในอนาคตได้ การมีทนายตั้งแต่แรกจะสามารถปกป้องสิทธิของคุณได้อย่างดีที่สุด
ชาวต่างชาติก็มีสิทธิ และการมีทนายความคือกุญแจสำคัญ

ไม่ว่าชาวต่างชาติจะถูกจับกุมด้วยเหตุใดในประเทศไทยสิทธิขั้นพื้นฐานยังคงได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย โดยเฉพาะสิทธิในการพบทนาย และสิทธิในการขอประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดี
หากคุณหรือบุคคลใกล้ชิดเป็นชาวต่างชาติและถูกจับกุมในประเทศไทยอย่ารอให้เรื่องบานปลาย การปรึกษาทนายความตั้งแต่ต้น คือทางเลือกที่ปลอดภัยและรอบคอบที่สุด เพราะในคดีความ ทุกนาทีมีค่า และการรู้สิทธิของตนเอง คือเกราะป้องกันที่สำคัญที่สุดในกระบวนการยุติธรรมไทย

