รู้ทันกลโกง! เพื่อไม่เป็นเหยื่อขบวนการฟอกเงิน

จากการที่ตำรวจสอบสวนกลางเดินหน้ากวาดล้างขบวนการฟอกเงินข้ามชาติ ล่าสุดบุกทลายเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน โดยจับกุมผู้ต้องหา 10 ราย ซึ่งมีทั้งชาวจีนและชาวไทย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 440 ล้านบาท หลังพบเส้นทางการเงินหมุนเวียนสูงถึง 6,500 ล้านบาท

กลโกงที่ใช้หลอกเหยื่อ

ขบวนการนี้อาศัยช่องทางโซเชียลมีเดียล่อลวงเหยื่อ โดยแอบแฝงมาในรูปแบบงานออนไลน์ เช่น กดไลก์เพิ่มยอดผู้ติดตาม ได้ค่าตอบแทน หรือการชวนลงทุนระยะสั้น อ้างให้ผลตอบแทนสูงถึง 30-50%

ในช่วงแรกเหยื่อมักได้รับเงินจริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนที่คนร้ายจะโน้มน้าวให้ลงทุนเพิ่ม เมื่อยอดเงินมากขึ้นกลับไม่สามารถถอนเงินได้ โดยอ้างว่าต้องทำตาม “เงื่อนไขพิเศษ” หรือเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

วิธีการฟอกเงินของขบวนการ

เงินที่ได้จากการหลอกลวงถูกนำไปแปลงเป็น สินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency) แล้วถ่ายเทผ่านหลายบัญชี ก่อนนำกลับมาแลกเป็นเงินสดในไทย ผ่านกลุ่มรับแลกเหรียญ P2P หรือบัญชีม้า นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องหายังตั้งบริษัทบังหน้า ใช้คนไทยเป็นนอมินีเพื่อซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ซุกซ่อนเงินผิดกฎหมาย

ตำรวจได้เข้าตรวจค้น 20 จุด ใน 8 จังหวัด ยึดของกลางกว่า 210 รายการ รวมมูลค่ามหาศาล โดยขยายผลจนสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ 32 ราย

ข้อหาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในข้อหา
–ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
–ร่วมกันฟอกเงิน
–เป็นอั้งยี่ ซ่องโจร
–ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

การฟอกเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และการใช้บริษัทบังหน้าเพื่อซุกซ่อนทรัพย์สิน ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

วิธีป้องกันตัว ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

–ระวังงานออนไลน์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง
–อย่าโอนเงินหรือให้ข้อมูลบัญชีกับบุคคลไม่รู้จัก
–ตรวจสอบบริษัทหรือแหล่งลงทุนก่อนร่วมลงทุน
–สังเกตพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น การชวนลงทุนแบบเร่งรัด

ขอคำปรึกษาก่อนสายเกินไป!

หากสงสัยว่าอาจตกเป็นเหยื่อหรือได้รับผลกระทบจากขบวนการฟอกเงิน สามารถขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวงศกรณ์ของเรา เพื่อรับข้อมูลทางกฎหมายและแนวทางป้องกันที่ถูกต้อง 

อ้างอิง:https://thestandard.co/police-bust-chinese-gray-network-investment-scam/

เขียนโดย :กรรณิการ์ เจริญวีระวงศ์ (นักศึกษาฝึกประสบการณ์ภาษาจีน)