อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านก็ไม่สามารถห้าม หรือควบคุมอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะขับขี่กันอย่างระมัดระวังและมีสติแล้ว แต่อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น เราไม่ชนเขา เขาก็ชนเรา หรือเหตุการณ์อื่น ๆ ที่ไม่คาดคิดบนท้องถนน ประกันวินาศภัยหรือประกันภัยรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยคุณได้ดีในเวลาที่คุณเกิดอุบัติเหตุ แน่นอนว่าจะเป็นสิ่งแรกที่คุณนึกถึงอย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังมองว่าประกันภัยรถยนต์นั้นไม่สำคัญ ต้องห้ามพลาดความรู้ดี ๆ ความสำคัญ และประโยชน์ของประกันภัยรถยนต์กัน
ประกันภัยรถยนต์คืออะไร ?
การประกันภัย หมายถึง การบริหารความเสี่ยงภัยวิธีหนึ่ง ซึ่งจะโอนความเสี่ยภัยของเจ้าของรถหรือผู้เอาประกันภัยไปสู่บริษัทประกันภัย เมื่อใดที่เกิดความเสียหายต่อตัวรถขึ้น บริษัทประกันภัยก็จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามที่ได้รับความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยนั่นเอง โดยที่เจ้าของรถหรือผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันให้บริษัทประกันภัยตามจำนวนและระยะเวลาที่ได้ตกลงกันตามสัญญา เป็นการวางแผนป้องกันความเสี่ยงในอนาคตอย่างหนึ่ง
ประกันภัยรถยนต์ คือ ข้อตกลงร่วมกันระหว่างบริษัทประกันภัยรถยนต์กับบุคคลหรือผู้บริโภค เมื่อหลังจากเซ็นสัญญาทำประกันแล้ว บริษัทประกันภัยรถยนต์จะต้องให้ความคุ้มครองต่อรถยนต์จากการสูญหาย หรือ ความเสียหายจากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยการทำประกันภัยรถยนต์นั้นก็เพื่อที่จะคุ้มครองความเสียหายหรือสูญเสียอันเกิดจากการใช้รถ อาทิ รถบุบสลาย หรือสูญหาย นอกจากนี้ความเสียหายหรือความสูญเสียที่ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้นด้วย
ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท ?
ประกันภัยรถยนต์ในไทยมีด้วยกันทั้งหมด 5 ประเภท ตามกฎหมายรถทุกคันจำเป็นต้องมี พ.ร.บ. เมื่อต่อทะเบียนรถ แต่พ.ร.บ. นั้นคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลคนเจ็บเท่านั้น เจ้าของรถจึงควรต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้นอื่น ๆ เพิ่มไว้ด้วย เพื่อคุ้มครองรถและทรัพย์สินเพิ่มทั้งของเราและของคู่กรณีด้วย โดยประกันชั้นต่าง ๆ ที่เลือกได้ทำเพิ่มได้มีดังนี้
ประกันภัยชั้น 1
ประกันชั้น 1 นี้จะคุ้มครองทุกอย่าง ซื้อไว้รับรองว่าอุ่นใจแน่นอน
ประกันภัยชั้น 2+
ประกันชั้นนี้จะซ่อมทั้งรถเราและรถของคู่กรณี (ในกรณีรถชนรถเท่านั้น) นอกจากนั้นการคุ้มครองอื่น ๆ จะเหมือนกับประกันชั้น 1
ประกันภัยชั้น 3+
ประกันชั้น 3+ นี้จะซ่อมทั้งรถเราและรถของคู่กรณี (ในกรณีรถชนรถเท่านั้น) แต่ไม่มีการคุ้มครองในส่วนรถสูญหาย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ
ประกันภัยชั้น 3
ประกันชั้นนี้เคลมรถของคู่กรณีเท่านั้น แต่จะเคลมรถเราไม่ได้ และไม่มีการคุ้มครองในส่วนรถสูญหาย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ
ถ้าเกิดอุบัติเหตุรถชนรถขึ้นมา เมื่อรถเราไปชนเข้ากับรถคนอื่นประกันภัยแต่ละชั้นจะคุ้มครองดังนี้
ประกันภัยรถยนต์สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เป็นสิ่งที่จะมีแต่ประโยชน์และข้อดในวันที่คุณเกิดปัญหาเกิดอุบัติเหตุประกันภัยจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะนึกถึง วันนี้จึงพามาแนะนำประกันภัยว่าควระทำแบบไหน ชั้นไหนดีถึงจะตอบโจทย์คุณได้มากที่สุด
พ.ร.บ. = จะคุ้มครองเพียงค่ารักษาพยาบาลคนเจ็บเท่านั้น
ประกันภัยชั้น 1 = คุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี
ประกันภัยชั้น 2+ = คุ้มครองเพราะครอบคลุมรถชนรถ สามารถเคลมได้ทั้งรถเราและรถคู่กรณี
ประกันภัยชั้น 3+ = คุ้มครองเพราะครอบคลุมรถชนรถ สามารถเคลมได้ทั้งรถเราและรถคู่กรณี
ประกันภัยชั้น 3 = เนื่องจากเราไปชนเขาเท่ากับว่าเราเป็นฝ่ายผิด จะเคลมรถเราไม่ได้ แต่จะสามารถเคลมรถคู่กรณีได้เท่านั้น
และถ้ากรณีที่รถเราโดนชน เราเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันจะคุยกับคู่กรณีให้เอง โดยประกันทุกชั้นคู่กรณีเป็นผู้จ่ายค่าเสียหายให้ หากรถเราถูกชนแล้วหนี ไม่ว่าประกันชั้นไหนก็ตามหากเรามีหลักฐานชัดเจนสามารถแจ้งทะเบียนรถของคู่กรณีได้ให้แจ้งความและโทรแจ้งประกันเพื่อดำเนินการรับใบเคลมและรับความคุ้มครองได้ทันที
ประกันภัยรถยนต์สำคัญอย่างไร จำเป็นต้องทำหรือไม่ ?
หากหลายท่านยังมองภาพไม่ออกว่าประกันภัยรถยนต์สำคัญมากน้อยแค่ไหน วันนี้พาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันว่าหากรถของเราตกอยู่ในสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ประกันภัยสำคัญหรือไม่ และประกันชั้นไหนคุ้มครองสถานการณ์ไหนบ้าง
-หากรถของเราไปชนอย่างอื่นที่ไม่ใช่รถ ประกันจะคุ้มครองเพียงประกันชั้น 1 เท่านั้น
-หากรถเจอน้ำท่วมหรือภัยธรรมชาติ ถ้ามีประกันชั้น 1 หรือ 2+ ประกันจะคุ้มครอง
-ในกรณีที่รถสูญหาย มีเพียงประกันชั้น 1 และ 2+ เท่านั้นที่คุ้มครอง
-ในกรณีที่รถไฟไหม้ มีเพียงประกันชั้น 1 และ 2+ เท่านั้นที่คุ้มครองเช่นกัน
เรียกได้ว่าแต่ละสถานการณ์มีสิทธิ์และอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาก็ว่าได้ ดังนั้น ถ้าหากใครกำลังคิดว่าประกันภัยรถยนต์ไม่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ให้ลองนึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถของคุณดู และเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ คุณจะทำอย่างไรต่อไปหากไม่มีประกันภัย อย่าปล่อยให้รถไม่มีประกันและควรทำประกันเพิ่มเพื่อตัวคุณและคนรอบข้าง สิ่งดี ๆ ที่ตัวคุณเลือกได้เองกับประกันภัยโปรโมชั่นดี ๆ ต้องที่ >>>โปรเด็ดประกันภัย เท่านั้น
5 ข้อดีของประกันภัยรถยนต์ สิ่งดี ๆ ที่ตัวคุณเลือกเองได้
-
อุ่นใจทั้งเราและคู่กรณี
หากวันหนึ่งคุณเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดบนท้องถนนขึ้นมา อย่างน้อยถ้าเรามีประกันภัยก็สามารถอุ่นใจได้ว่าประกันจะช่วยเราแน่นอน เช่น ค่าซ่อมทั้งเราและคู่กรณี โดยที่เราไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อนอีกด้วย
-
อุ่นใจอีกขั้นไม่ต้องสำรองค่ารักษาพยาบาลเอง
หากเกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้ได้รับบาดเจ็บขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นเราหรือคู่กรณีก็ตาม ประกันภัยจะช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้ตามวงเงิน เรียกได้ว่าสามารถช่วยแบ่งเบาภาระไปได้มากและอุ่นใจแน่นอนหากมีประกันไว้
-
ประกันภัยพร้อมเคียงข้างช่วยเหลือ 24 ชม.
หากเกิดอุบัติเหตุสามารถขอความช่วยเหลือประกันได้ตลอด 24 ชม. พร้อมเคียงข้างคุณในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเวลาไหน จังหวัดใด ก็ครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อไปดูแลและช่วยเหลือคุณ
-
คุ้มครองอย่างครอบคลุม สบายใจได้
ไม่ว่าจะกรณีใด ทั้งรถหาย เกิดเหตุไฟไฟม้ รวมไปถึงน้ำท่วม หากมีประกันภัยก็อุ่นใจได้ทันที เพราะจะได้รับเงินชดเชยตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ แต่ไม่ครอบคลุมความเสียหายของทรัพย์สินเท่านั้น
-
รอรถซ่อมก็มีรถให้ใช้ ไม่ต้องลำบาก
หากเกิดอุบัติเหตุแล้วรถเข้าอู่ซ่อมอยู่ หลังจากนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าคุณจะไม่มีรถใช้ หากมีประกันภัยรถยนต์ ระหว่างรอรถซ่อมคุณก็จะมีรถใช้ไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องรถแน่นอน หรือถ้าหากไม่ต้องการรถใช้ระหว่างรอซ่อมก็สามารถเลือกเป็นค่าเดินทาง หรือไม่ก็ค่าน้ำมันชดเชยได้อีกด้วย สะดวกและสบายสุด ๆ เพียงแค่มีประกันภัย
ประกันภัยรถยนต์สิ่งดี ๆ ที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อทำไว้แล้วไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน เพราะคุณจะได้รับประโยชน์อย่างที่คุณไม่คาดคิดว่าจะได้ ทั้งอุ่นใจ ปลอดภัย สะดวกสบาย สบายใจทั้งตัวคุณและคู่กรณี เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่าชะล่าใจ ขับรถเก่งแค่ไหนก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้ ทำไว้ดีกว่าแก้ไขในวันที่สายไป ประกันภัยรถยนต์ราคาดีกับโปรโมชั่นโดน ๆ ต้องที่ โปรเด็ดประกันภัย