เคสตัวอย่าง
อุบัติเหตุรุนแรงบนมอเตอร์เวย์สาย 7 รถยนต์ตัดหน้าบรรทุกปูน 22 ล้อ พุ่งชนสาหัส เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 – เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์สาย 7 กม.110+900 ในพื้นที่ ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อรถยนต์ฟอร์ดสีขาว ทะเบียนระยอง ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นชาวจีน 4 คน ขับออกจากอุโมงค์และตัดหน้ารถบรรทุกปูน 22 ล้อที่วิ่งมาด้วยความเร็ว ทำให้รถบรรทุกไม่สามารถเบรกได้ทันและพุ่งชนอย่างจัง
จากการรายงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา และทีมแพทย์จากโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา พบว่า ผู้โดยสารชาวจีน 2 รายได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทว่าอีก 2 รายในรถฟอร์ดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ นอกจากนี้ยังมีรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีดำ ที่จอดอยู่ข้างทางได้รับความเสียหายจากแรงกระแทกจากเหตุการณ์นี้
นาย A อายุ 43 ปี เจ้าของรถโตโยต้าที่ได้รับความเสียหายเล่าว่า ขณะที่เขาจอดรถกินข้าวอยู่ข้างทาง รถฟอร์ดได้ออกจากอุโมงค์และถูกชนโดยรถบรรทุกจนกระเด็นมาชนรถของตนเอง ส่วน นาย B อายุ 56 ปี คนขับรถบรรทุก 22 ล้อ เล่าว่า ขณะขับรถบรรทุกปูนจากสระบุรีไปยังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ รถฟอร์ดได้ตัดหน้ารถบรรทุกอย่างกะทันหัน จึงไม่สามารถเบรกได้ทัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและบันทึกหลักฐาน พร้อมทั้งตั้งข้อสันนิษฐานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากการที่รถฟอร์ดตัดหน้ารถบรรทุกอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดการชนอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงมีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย

ความรับผิดชอบทางกฎหมายในอุบัติเหตุจราจร: ความรับผิดชอบของผู้ขับขี่และผู้ได้รับผลกระทบ
1. ความรับผิดชอบของคนขับรถฟอร์ด (ชาวจีน) และญาติผู้เสียชีวิต
กรณีของคนขับรถฟอร์ด (ซึ่งเป็นชาวจีน) ที่ตัดหน้ารถบรรทุกอย่างกะทันหัน หากการสอบสวนพบว่าเขามีการขับขี่โดยประมาท ไม่ระมัดระวัง หรือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ก็อาจจะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยเฉพาะมาตรา 3 ที่ระบุว่า การขับขี่โดยประมาท หรือขับรถในลักษณะเสี่ยงภัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินนั้นถือเป็นการกระทำผิด
ในกรณีที่คนขับรถฟอร์ดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุนี้ แม้เขาจะไม่ได้รับโทษทางอาญาอีกแล้ว แต่ทางญาติหรือผู้สืบทอดทรัพย์สินของเขาอาจจะต้องรับผิดชอบในด้านของการชดเชยค่าทำขวัญหรือค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่มีการฟ้องร้องเรียกร้องจากฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ อาจมีการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ส่วนผู้รอดชีวิตจากรถฟอร์ดอาจต้องรับผิดในข้อหาประมาทร่วม หากมีการพิสูจน์ว่าเขามีส่วนในการขับขี่อย่างประมาท หรือไม่ได้ปฏิบัติตามกฎจราจรในขณะที่เขาอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย ซึ่งอาจทำให้เกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ
2. ความรับผิดชอบของคนขับรถบรรทุก 22 ล้อ
คนขับรถบรรทุก 22 ล้อ (นาย A) ซึ่งเป็นฝ่ายที่มีความเสียหายจากการชนในเหตุการณ์นี้ หากพิสูจน์ได้ว่าเขาขับรถตามปกติและไม่สามารถหลบหลีกการตัดหน้าของรถฟอร์ดได้ อาจไม่ได้รับความผิดทางอาญาโดยตรง เนื่องจากไม่สามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่เกิดจากการตัดหน้าของรถฟอร์ดได้ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่การสอบสวนพบว่าเขาขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด หรือไม่ระมัดระวัง อาจถูกพิจารณาผิดตาม มาตรา 43 ของ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งระบุเกี่ยวกับการขับรถโดยประมาท
การขับรถเร็วเกินกำหนด หรือไม่ระมัดระวังจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ อาจถูกตีความว่าเป็น การขับขี่โดยประมาท ซึ่งอาจต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญา โดยคนขับจะต้องรับผิดชอบต่อการเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น ค่าเสียหายจากการบาดเจ็บ หรือค่าทำขวัญจากผู้เสียชีวิต
3. ความเสียหายของผู้ที่ได้รับผลกระทบ (นาย B เจ้าของรถโตโยต้า ยาริส )
กรณีของ นาย B ที่ได้รับความเสียหายจากการกระแทกของรถฟอร์ด หลังจากที่มันชนกับรถบรรทุก หากเขามี ประกันภัยรถยนต์ การเรียกร้องค่าชดเชยจากบริษัทประกันภัยจะเป็นสิทธิ์ของเขา โดยบริษัทประกันจะต้องชดเชยตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่ระบุไว้ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีประกันหรือประกันไม่ครอบคลุมการเกิดเหตุการณ์นี้ นาย B อาจต้องเรียกร้องค่าเสียหายจากบุคคลที่มีความรับผิดชอบในอุบัติเหตุ (เช่น เจ้าของรถฟอร์ด หรือเจ้าของประกันภัยของรถฟอร์ด)ในกรณีที่มี ผู้เสียชีวิต เช่น ผู้โดยสารชาวจีนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตสามารถเรียกร้อง ค่าทำขวัญหรือสินไหมทดแทน ได้จากผู้ที่มีความรับผิดชอบในอุบัติเหตุ ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งจะกำหนดให้ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องเงินชดเชยได้หากได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่ของบุคคลอื่น

ข้อสรุปจากเหตุการณ์ครั้งนี้และความรู้ทางกฎหมายที่ควรรู้
เหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎจราจรและการขับขี่อย่างระมัดระวัง โดยไม่เพียงแต่จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง แต่ยังต้องรับผิดชอบต่อผู้อื่นที่อาจได้รับผลกระทบจากการขับขี่ที่ประมาทหรือผิดกฎจราจร โดยการเยียวยาความเสียหายจะขึ้นอยู่กับการดำเนินการตาม ประกันภัย และ การฟ้องร้องทางกฎหมาย เพื่อให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การขับรถในต่างแดนสำหรับชาวต่างชาติเป็นเรื่องที่ต้องพึงระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากแต่ละประเทศมี กฎหมายจราจร และ ข้อกำหนดทางกฎหมาย ที่แตกต่างกัน รวมถึง ข้อบังคับในการขับขี่ ที่อาจแตกต่างจากประเทศบ้านเกิดของผู้ขับขี่เอง เช่น ในกรณีของชาวจีนที่ขับรถในประเทศไทย เหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษากฎหมายในแต่ละประเทศอย่างรอบคอบก่อนการขับขี่ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในกรณีของ กฎหมายไทย ผู้ขับขี่ที่เป็นชาวต่างชาติจำเป็นต้องทำความเข้าใจใน พระราชบัญญัติการจราจรทางบก (พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522) และ พ.ร.บ.รถยนต์ (พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522) รวมถึงข้อกำหนดในการใช้ ใบขับขี่ไทย สำหรับผู้ขับขี่ต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากผู้ขับขี่เป็นชาวต่างชาติที่ไม่มี ใบขับขี่ไทย หรือ ใบขับขี่ที่ได้รับการรับรองในประเทศไทย อาจทำให้การขับขี่นั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมายได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการรับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

ตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับรถ เช่น ใบขับขี่ ประกันภัย สิทธิ์ในการครอบครองรถ สัญญาซื้อขายรถถูกที่กฎหมาย
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ประกันภัย ของตนเองครอบคลุมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุในต่างประเทศ การมี ประกันภัยรถยนต์ ที่ครอบคลุมหรือได้รับคำแนะนำจากตัวแทนประกันภัยที่มีความเชี่ยวชาญในกฎหมายไทยจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาด้านการชดเชยค่าเสียหาย อีกทั้ง การตรวจสอบว่าการ ครอบครองรถ ของตนเองนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และการมี ใบขับขี่ไทย หรือ ใบขับขี่ระหว่างประเทศ ที่ได้รับการรับรองในประเทศไทย หรือแม้กระทั่งเอกสารการซื้อรถในไทยแบบถูกกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย
หากผู้ขับขี่ชาวต่างชาติทำการขับรถในประเทศไทยแล้วเกิดอุบัติเหตุ และพบว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมายไทย การถูกดำเนินคดีในไทยจะเป็นไปตามกฎหมายไทย ตามระเบียบที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือ พ.ร.บ.การชดเชยค่าเสียหายจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการใช้รถยนต์
ปรึกษาสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาคดีทางรถยนต์
หากคุณหรือคนรอบตัวที่เป็นชาวต่างชาติประสบปัญหาจากการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก อย่าปล่อยให้ความเสียหายดำเนินต่อไปโดยไม่มีการปกป้องสิทธิ์ หากคุณไม่ผิด ทีมทนายความมากประสบการณ์ของสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงและสิทธิ์ของคุณอย่างเต็มที่ หากรูปแบบคดีมีความซับซ้อนมากกว่าเคสดังกล่าว สามารถปรึกษากับทีมทนายวงศกรณ์ก่อนได้ เพื่อให้คุณได้รับการคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ปรึกษาทนาย >> ติดต่อเรา <<
อ้างอิงจากเว็บไซต์ :https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5056114 , https://shorturl.asia/LIg2u
เขียนโดย :วรารัตน์ วงโพธิสาร (นักศึกษาฝึกประสบการณ์ภาษาจีน)