“เมาแล้วขับ” พฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุราหรือแอลกอฮอล์ ไม่ว่าคุณจะขับขี่ไปแล้วเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ก็ตาม ก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังสร้างความเดือดร้อนให้ทั้งตัวผู้ขับขี่เองและเพื่อนร่วมท้องถนนด้วย นอกเหนือจากนี้หากการที่ผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 Mg.% ขณะขับขี่แล้วดันขับรถไปเกิดอุบัติเหตุ แม้ว่าจะมีคู่กรณีกรณีหรือไม่ก็ตาม ต้องบอกเลยว่าผู้ขับขี่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยที่จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย วันนี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ จึงได้มาอัปเดตโทษกฎหมายใหม่ที่ว่าหากแอลกอฮอล์เกิน 50 Mg.% “เมาแล้วขับ” ในปี 2024 มาฝากทุกท่านกัน เพื่อป้องกันไม่ให้พฤติกรรมการเมาแล้วขับเป็นเรื่องปกติของทุกคน และเพื่อเป็นการระมัดระวังให้กับสายดื่มสายปาร์ตี้ดึกทุกท่านกันด้วย
สายดื่ม สายปาร์ตี้ต้องรู้ บทลงโทษของคน “เมาแล้วขับ” ปี 2024 มีอะไรบ้าง
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดื่ม หรือนักปาร์ตี้ในเวลากลางคืนหรือไม่ และไม่ว่าคุณจะต้องขับขี่ยานพาหนะหรือไม่นั้น สำหรับเรื่องนี้แล้วเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรู้ เพื่อที่จะได้ไม่เผลอดื่มหนักแล้วขับขี่ยานพาหนะไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นและหรือตัวคุณเอง วันนี้จึงได้พาทุกท่านมาเช็กกฎหมายใหม่ของปี 2024 ในเรื่องของการเมาแล้วขับ แอลกอฮอล์เกิน 50 Mg.% ขณะขับขี่กัน สายดื่ม สายเมา จำเป็นต้องรู้อย่างยิ่ง มีดังนี้
ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 Mg.% การเมาและขับขี่ยานพาหนะตามกฎหมายแล้วมีโทษ คือ ต้องจำคุกไม่เกิน 1 ปี และมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 km และหรือทั้งจำทั้งปรับนั่นเอง
ผู้ที่เมาแล้วขับแอลกอฮอล์เกิน 50 Mg.% นอกจากจะต้องได้รับโทษข้างต้นแล้ว ยังต้องถูกพักใช้ใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับขี่รถระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
และสำหรับผู้ที่เมาแล้วขับมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 Mg.% และเป็นผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และหรือเป็นผู้ที่ยังมีใบขับขี่แบบชั่วคราว หรือแบบ 2 ปี หากมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 Mg.% อย่างที่กล่าวไป ให้ถือว่าผู้นั้น “เมาแล้วขับ” ทันที
นอกจากนี้ยังมีในกรณีที่ว่าผู้ขับขี่ “เมาแล้วขับ” มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 Mg.% และหรือมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 Mg.% หากผู้นั้นปฏิเสธการเป่าวัดแอลกอฮอล์จากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ จะต้องรับโทษทั้ง “จำคุก” ไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 – 20,000 บาท อีกทั้งยังต้องถูกระงับใช้ใบขับขี่ในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนี้แล้วหากผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินศาลยังสามารถสั่งพักใบขับขี่ และหรือสั่งยกเลิกเพิกถอนใบขับขี่ และหรือสามารถยึดรถไว้ในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน ได้อีกด้วย
“เมาแล้วขับ” ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน มีโทษอะไรบ้าง
มาถึงในกรณีที่ว่าหากผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมาสุราหรือแอลกอฮอล์ หากเป่าวัดแอลกอฮอล์เกิน 50 Mg.% และหรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หากเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 Mg.% อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าก็ถือว่าเมาแล้วขับ และหากผู้นั้นขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น แล้วเกิอุบัติเหตุสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นในกรณีต่าง ๆ จะได้รับโทษดังนี้
เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
สำหรับผู้ที่ดื่มหนักมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินตามที่กฎหมายกำหนด และขับขี่ยานพาหนะเกิดอุบัติเหตุส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้นั้นจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี อีกทั้งยังต้องถูกปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท นอกจากนี้ยังจะต้องถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่ต่ำกว่า 60 เดือน และหรือถูกสั่งเพิกถอนใบขับขี่ด้วย
เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
อ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านอาจมองว่าโทษในข้อแรกที่ว่าเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บว่าเป็นโทษที่หนักแล้ว สำหรับข้อนี้ผู้ใดที่เมาแล้วขับสร้างความเดือดร้อนโดยให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ “สาหัส” จะต้องได้รับโทษ คือ จำคุกตั้งแต่ 2-6 ปี ปรับตึ้งแต่ 40,000 – 120,000 บาท อีกทั้งยังต้องถูกระงับใช้ใบขับขี่ไม่ต่ำกว่า 2 ปีเลยทีเดียว
เมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินตามที่กฎหมายกำหนด แล้วขับขี่ยานพาหนะไปทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือเสียชีวิต จะต้องได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และต้องถูกโทษปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท นอกจากนี้ยังต้องถูกระงับใช้ใบขับขี่ทันทีอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่เรานำมาให้ทุกท่านได้อ่านวันนี้ หวังว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับทั้งสายดื่ม สายปาร์ตี้ และหรือบุคคลทั่วไปได้ดี เพื่อให้ทุกท่านไม่เผลอไปทำพฤติกรรมเมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นและตัวเองต้องเดือดร้อน อีกทั้งอย่าชะล่าใจในเรื่องของปริมาณแอลกอฮอล์ เพราะถ้าเมื่อไรที่เป่าวัดแล้วมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 Mg.% แม้ว่าจะไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครก็ตาม ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่ดี
แต่ถ้าใครขับขี่ยานพาหนะแล้วดันไปเกิดอุบัติเหตุ แล้วถูกบริษัทประกันภัยนับผลแอลกอฮอล์ย้อนหลังบอกว่าคุณมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน เพื่อมาปฏิเสธการรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หากไม่อยากเสียรู้และตกเป็นเหยื่อของบริษัทประกันภัย หลังเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าคุณจะถูกหรือผิดรีบติดต่อทนายด่วน
ขอขอบคุณข้อมูล : กรมขนส่งทางบก