ใครที่ติดตามสำนักงานกฎหมายวงศกรณ์คงจะคุ้นเคยกับวลีที่ว่า “เมาแล้วขับ” ถูก “นับผลแอลกอฮอล์ย้อนหลัง” เป็นอย่างดี เพราะเป็นวลีเด็ดที่บริษัทประกันภัยมักนำมาอ้างต่อผู้เสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุในทุกครั้งนั่นเอง โดยก็มีผู้เสียหายหลายเคสมาก ๆ ที่ได้ติดต่อให้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ดำเนินคดีให้เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุแต่กลับถูกบริษัทประกันภัยอ้างว่าเมาแล้วขับ และใช้วิธีการนับผลแอลกอฮอล์ย้อนหลัง เพื่อมาปฏิเสธไม่รับผิดชอบต่อผู้เสียหาย ซึ่งกลวิธีการดังกล่าวก็เป็นวิธีการที่อาจอนุมานได้ว่า “หัวหมอ” ต่อผู้เสียหายพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งหากมีคนหลงเชื่อวิธีการนี้ของบริษัทประกันภัยไปความเดือดร้อนก็อาจมาเยือนคุณได้อย่างแน่นอน วันนี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์จึงได้นำข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ตามกฎหมายมากฝากกันว่าเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่จึงจะเรียกว่าไม่เมาแล้วขับ และเพื่อให้คุณรู้เท่าทันวลีเด็ดของประกันภัยอย่างคำว่า “คุณเมาแล้วขับ” และใช้มุก “นับผลแอลกอฮอล์ย้อนหลัง” มาเอาเปรียบคุณในภายหลังนั่นเอง
เป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่ ถึงเรียก “ไม่ได้เมาแล้วขับ”
สำหรับเรื่องเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่ปริมาณแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ยานพาหนะนั้น หลายคนก็อยากจะรู้กันใช่ไหมว่าเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่าไม่ได้เมาแล้วขับกันแน่ โดยตามกฎหมายแล้วเรื่องของปริมาณแอลกอฮอล์จะแบ่งเป็น 2 ระดับด้วยกัน ดังนี้
ระดับที่ 1 ปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ในระดับที่ 1 นี้จะเป็นในกรณีที่ผู้ขับขี่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี , ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับขี่ประเภทชั่วคราว , บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รวมไปถึงบุคคลที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และหรือบุคคลที่ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หากบุคคลตามที่กล่าวมานี้มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะถือว่าบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่ “เมาแล้วขับ” ทันทีเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่
ระดับที่ 2 ปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ในระดับที่ 2 นี้เป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่จะพบผู้ที่เมาแล้วขับเป็นส่วนมาก เนื่องจากจะเป็นบุคคลที่มีใบอนุญาตขับขี่เกิน 5 ปี หรือตลอดชีพ และเป็นบุคคลที่มีอายุมากกว่า 20 ปี
โดยปริมาณแอลกอฮอล์ทั้ง 2 ระดับนี้ เป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่หากเกิดอุบัติเหตุและได้เป่าแอลกอฮอล์ หลังการเป่าแล้วพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินที่กฎหมายกำหนดทั้ง 2 ระดับ ตามกฎหมายแล้วจะถือว่าผู้นั้น “เมาแล้วขับ” ทันที และต้องรับโทษตามกฎหมาย คือ ปรับจำนวน 5,000 บาท – 20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี และหรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้บุคคลผู้ที่เมาแล้วขับในทั้ง 2 ระดับอย่างที่กล่าวไปข้างต้น จะต้องถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่นั่นเอง
เจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ไม่เป่าได้หรือไม่ ?
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สงสัยว่าเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่ถึงเรียกว่าไม่ได้เมาแล้วขับ หากขับขี่แล้วเจอด่านตรวจให้เป่าวัดแอลกอฮอล์แล้วผู้ขับขี่ไม่ยอมเป่าวัดแอลกอฮอล์ ตามกฎหมายแล้วนั้นก็จะถือว่าผู้นั้น “เมาแล้วขับ” โดยปริยาย อีกทั้งยังต้องโทษตามกฎหมายด้วย คือ จำคุกไม่เกิน 1ปี และหรือถูกปรับสูงสุดจำนวน 20,000 บาท อีกทั้งก็จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ด้วยเช่นเดียวกันเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และหรืออาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ด้วย
เหล่านักดื่มทั้งหลายที่ข้องใจว่าจะต้องเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่า “ไม่ได้เมาแล้วขับ” ก็คงหายข้องใจกันแล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือไม่ควรขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทขณะมึนเมา เพราะนอกจากจะได้ไม่ถูกข้อหาเมาแล้วขับแล้ว จะได้ไม่ต้องมากังวลเรื่องเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่ รวมไปถึงไม่ต้องมาเกิดอุบัติเหตุให้ทรัพย์สินเสียหายด้วย
สำหรับข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าไม่ได้เมาแล้วขับในส่วนของปริมาณแอลกอฮอล์ในการขับขี่ยานพาหนะที่กล่าวไปในข้างต้นนั้น เราก็หวังว่าข้อมูลที่กล่าวมาจะสามารถเป็นความรู้ในการขับขี่ได้กับทุกท่าน ที่กังวลว่าต้องเป่าแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าไหร่ และที่สำคัญที่สุดก็เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงการป้องกันเพื่อไม่ให้คุณถูกข้อหาเมาแล้วขับด้วย และหากใครที่ขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุถูกบริษัทประกันภัยอ้างว่าคุณ “เมาแล้วขับ” และถูกบริษัทใช้มุกเด็ด “นับผลแอลกอฮอล์ย้อนหลัง” ล่ะก็ ไม่ต้องรอช้า ปรึกษาทนายดีที่สุด อย่ารอให้บริษัทประกันภัยมาเอาเปรียบคุณได้ !