ฉุกคิดก่อนฟ้องตัวแทนประกันชีวิต ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตต้องรู้อะไรบ้าง

  • หน้าแรก
  • ฉุกคิดก่อนฟ้องตัวแทนประกันชีวิต ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตต้องรู้อะไรบ้าง

ฉุกคิดก่อนฟ้องตัวแทนประกันชีวิต ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตต้องรู้อะไรบ้าง

          มีคดีความมากมายเกี่ยวกับเรื่องราวของตัวแทนประกันชีวิตที่เรียกได้ว่าบุคคลเหล่านี้ทำพิษไม่น้อยให้ผู้บริโภคจำนวนมาก จนเกิดข่าวและเรื่องราวการดำเนินคดีฟ้องตัวแทนประกันชีวิตหลายต่อหลายคดีเลยก็ว่าได้ ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ก็ได้นำเสนอเรื่องราววีรกรรมสุดแสบของตัวแทนประกันชีวิตไปอย่าง อุทาหรณ์ตัวแทนประกันชีวิต ขายประกันทิพย์จนต้องฟ้อง!! เพื่อเตือนภัยให้ผู้บริโภคทั้งหลายได้ฉุกคิดก่อนซื้อหรือทำประกันชีวิตกับตัวแทน เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหลังจากที่เราตัดสินใจทำประกันชีวิตกับตัวแทนไปแล้วนั้นจะเกิดผลอย่างไรตามมาบ้าง บางรายที่ทำประกันชีวิตไปก็ไม่เคยมีปัญหาใด ๆ ตามมา อีกทั้งยังได้รับผลตอบแทนตรงตามที่ตัวแทนประกันชีวิตนำเสนอมาในตอนแรก แต่ก็มีอีกหลายรายเช่นเดียวกันที่ถูกตัวแทนประกันชีวิตหลอกจนเกิดเป็นคดีความฟ้องตัวแทนประกันชีวิต กันมานักต่อนัก อาทิ เจอตัวแทนประกันชีวิตปลอมไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่มีใบอนุญาตเป็นตัวแทน , เจอกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ไม่มีอยู่จริง , ถูกตัวแทนประกันชีวิตปลอมแปลงเอกสาร/ลายเซ็นต์ ฯลฯ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคต้องสูญเสียเงินและได้รับความเดือดร้อนไปหลายรายเลยทีเดียว วันนี้สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ก็ได้นำข้อมูลข่าวสารความรู้มาฝากผู้ติดตามทุกท่านอีกเช่นเคย เพื่อให้ทุกท่านได้ฉุกคิดก่อนทำประกันชีวิตจะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลังจนต้องเกิดเป็นคดีความฟ้องตัวแทนประกันชีวิต

ก่อนทำประกันชีวิตควรรู้ 4 ข้อหลักที่ประกันชีวิตจะไม่จ่าย

          ก่อนที่จะเกิดเป็นคดีความฟ้องตัวแทนประกันชีวิตในภายหลังจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลจนเสียเวลากัน วันนี้เราก็ได้สืบหาข้อมูลความรู้ดี ๆ มาฝากสำหรับผู้ที่คิดจะทำประกันชีวิต ต้องมีความรู้หลัก ๆ เลยว่าบริษัทประกันชีวิตจะไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนหากทำ 4 สิ่งนี้ ดังนี้

  1. ข้อแรกเลยคือประกันชีวิตมีระยะเวลาให้ลูกค้าหรือผู้เอาประกันได้ชำระเบี้ยประกันชีวิตอย่างต่อเนื่อง หากผู้เอาประกันมีการขาดชำระค่าเบี้ยประกันเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จะส่งผลให้ประกันชีวิตขาดและหรือสิ้นผลบังคับได้ ภายหลังหากผู้เอาประกันเป็นอะไรขึ้นมาไม่ว่าจะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในช่วงที่ประกันชีวิตสิ้นผลบังคับไปแล้ว บริษัทประกันก็จะปฏิเสธการชดใช้ทุนประกันทันที ทำให้ผู้เอาประกันไม่สามารถได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ตกลงกันกับตัวแทนประกันชีวิตในตอนแรกได้ หากผู้เอาประกันขาดส่งเบี้ยประกันในกรณีแบบนี้ก็อาจดำเนินคดีฟ้องตัวแทนประกันชีวิตในภายหลังไม่ได้
  2. ข้อต่อมาหากผู้เอาประกันฆ่าตัวตายด้วยใจสมัครภายใน 1 ปี นับตั้งแต่สัญญากรมธรรม์อนุมัติ บริษัทฯ ก็จะไม่จ่ายเช่นเดียวกัน สำหรับกรณีนี้หากจะดำเนินคดีฟ้องตัวแทนประกันชีวิตทางเราก็ไม่แนะนำเช่นเดียวกัน
  3. และก่อนจะฟ้องตัวแทนประกันชีวิตหากผู้เอาประกันถูกผู้รับผลประโยชน์ฆาตรกรรมโดยเจตนา เพื่อที่จะรับประโยชน์ หากบริษัทประกันพิสูจน์ข้อเท็จจริงของการเสียชีวิตของผู้เอาประกันได้ บริษัทฯ ก็จะไม่จ่ายเช่นกันทันที
  4. ข้อนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะบริษัทฯ จะไม่จ่ายเลยทันทีก็คือ การที่ผู้เอาประกันมีการปกปิดแถลงเท็จขณะการสอบถามเพื่อสมัครเอาประกันชีวิต หากพิสูจน์แล้วว่าผู้เอาประกันมีการแถลงเท็จไม่เปิดเผยประวัติตามความเป็นจริง บริษัทฯ ก็จะไม่จ่ายในที่สุด

          สำหรับ 4 ข้อที่เรานำมาฝากเป็นความรู้เบื้องต้นก่อนที่คิดจะทำประกันชีวิต ซึ่งเป็น 4 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับการไม่จ่ายของบริษัทประกันชีวิต ที่ผู้คิดจะทำต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันชีวิตไป เพราะหากภายหลังได้มีเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาเกิดขึ้น จะได้ไม่มีคดีความฟ้องตัวแทนประกันชีวิตในภายหลังนั่นเอง

          แต่ถ้าหากใครกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการทำประกันชีวิตหรือถูกตัวแทนประกันชีวิตหลอก อย่ายอมให้ถูกบริษัทฯ โกงหรือเอาเปรียบ ฟ้องตัวแทนประกันชีวิต คือคำตอบที่ดีที่สุด หาทนายความเพื่อปรึกษาหรือดำเนินคดีไว้ตั้งแต่เกิดเรื่องดีที่สุด สำนักงานกฎหมายวงศกรณ์ยินดีให้บริการทุกคดีความ ด้วยทีมทนายความมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาของคุณ  

ขอขอบคุณข้อมูลความรู้ดี ๆ จากช่อง YouTube : Pattama Channel