ในยุคปัจจุบันที่แนวคิดเรื่องความรักและการแต่งงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คู่รักจำนวนไม่น้อยเริ่มมองหาแนวทางในการปกป้องสิทธิและทรัพย์สินของตนเอง แม้ในช่วงเวลาที่ตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน “สัญญาก่อนสมรส” หรือที่หลายคนเรียกกันสั้นๆ ว่า “Prenup” จึงกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีทรัพย์สินมาก่อนการแต่งงาน หรือมีข้อกังวลด้านธุรกิจและทรัพย์สินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
สัญญาก่อนสมรส (Prenup) คืออะไร?

สัญญาก่อนสมรส (Prenup) คือข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างคู่สมรส ซึ่งจัดทำขึ้นก่อนการจดทะเบียนสมรส โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อกำหนดการจัดการทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนการแต่งงาน หรือทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการสมรส
ในประเทศไทย สัญญาก่อนสมรสจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อได้มีการทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย พร้อมจดทะเบียนแนบท้ายไปกับการจดทะเบียนสมรสที่อำเภอ จึงจะถือว่าเป็นสัญญาที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
เนื้อหาของสัญญาก่อนสมรสประกอบด้วยอะไรบ้าง?

โดยทั่วไปแล้ว สัญญาก่อนสมรส จะครอบคลุมรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.การแบ่งแยกทรัพย์สินส่วนตัวของแต่ละฝ่าย
oเช่น บ้าน รถยนต์ เงินออม หุ้น หรือทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีอยู่ก่อนการแต่งงานจะไม่ถือเป็นสินสมรส และไม่ต้องถูกแบ่งหากมีการหย่าร้าง
2.ข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สินร่วมที่จะเกิดขึ้นหลังแต่งงาน
oกำหนดว่าทรัพย์สินที่หามาได้หลังจากจดทะเบียนสมรสจะถือเป็นสินสมรสร่วมกันหรือไม่ หรือฝ่ายใดเป็นเจ้าของโดยชอบธรรม
3.ข้อตกลงด้านหนี้สิน
oวางแนวทางในการจัดการหนี้สินส่วนตัวหรือหนี้ร่วม เช่น หากฝ่ายใดกู้เงินมาก่อนการแต่งงาน ฝ่ายนั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบเพียงผู้เดียวหรือไม่
4.การจัดการทรัพย์สินในกรณีหย่าร้าง
oป้องกันความขัดแย้งหากต้องแยกทางกัน เช่น ระบุว่าใครจะได้สิทธิ์ในทรัพย์สินชิ้นใด หรือจะมีการแบ่งสัดส่วนอย่างไร
5.เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ
oเช่น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนอกใจ จะไม่ได้รับสิทธิในทรัพย์สินบางส่วน หรือข้อกำหนดในการดูแลบุตรหากมีลูกในอนาคต (แม้ส่วนนี้ศาลจะยังคงใช้ดุลพินิจอยู่ก็ตาม)
ข้อดีของการทำสัญญาก่อนสมรส (Prenup)

แม้การพูดคุยเรื่อง “สัญญาก่อนสมรส” จะอาจทำให้หลายคนหรือบางคู่รักรู้สึกไม่ดี หรือดูไม่ไว้ใจกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สัญญานี้มีข้อดีหลายประการ เช่น
- ป้องกันความขัดแย้งในอนาคต
การมีข้อตกลงที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อนแต่งงาน จะช่วยลดความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินและหนี้สิน หากเกิดปัญหาหย่าร้างในภายหลัง - คุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคล
โดยเฉพาะในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีทรัพย์สินสะสมมาก่อนสมรส หรือเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว การทำสัญญาจะช่วยให้ทรัพย์สินเหล่านั้นไม่ตกเป็นสินสมรสโดยอัตโนมัติ - ลดค่าใช้จ่ายและเวลาทางกฎหมาย
หากมีการหย่าร้าง การมีสัญญาก่อนสมรสจะช่วยให้การแบ่งทรัพย์สินเป็นไปตามข้อตกลงเดิม ลดการฟ้องร้องและข้อพิพาททางกฎหมาย - เสริมความมั่นคงและความเชื่อมั่นในชีวิตคู่
การพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องการเงินก่อนแต่งงาน อาจสะท้อนถึงความโปร่งใสและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย
ข้อควรระวังในการทำสัญญาก่อนสมรส

แม้จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่การจัดทำ สัญญาก่อนสมรส ก็ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดบางประการ เช่น
- ต้องไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
- ต้องไม่ตัดสิทธิหรือหน้าที่ของคู่สมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น ห้ามกำหนดว่าฝ่ายหนึ่งไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงดูโดยเด็ดขาด
หากเงื่อนไขใดในสัญญาขัดต่อหลักกฎหมาย ศาลอาจวินิจฉัยให้เงื่อนไขนั้นเป็นโมฆะได้
ทำไมจึงควรปรึกษาทนายความก่อนทำสัญญาก่อนสมรส?

การทำสัญญาก่อนสมรสไม่ใช่แค่เรื่องของความรักและความไว้ใจ แต่เป็นเรื่องของกฎหมายที่มีผลผูกพันต่อชีวิตในอนาคตอย่างลึกซึ้ง
หลายกรณีที่พบว่าเมื่อถึงเวลาหย่าร้าง ข้อตกลงในสัญญากลับไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง เพราะเขียนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีข้อกำหนดที่ศาลเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
การปรึกษาทนายความ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่า
- ข้อความในสัญญาถูกต้องตามหลักกฎหมาย
- ไม่มีเงื่อนไขใดที่อาจกลายเป็นโมฆะหรือถูกตีความคลาดเคลื่อน
- สัญญามีผลบังคับใช้ได้จริงเมื่อจดทะเบียนสมรส
- ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละคู่
แม้ “สัญญาก่อนสมรส” อาจไม่ใช่เรื่องที่คู่รักทุกคู่ต้องทำ แต่สำหรับผู้ที่มีทรัพย์สิน ธุรกิจ หรือความกังวลเรื่องการจัดการทางการเงินในอนาคต การจัดทำสัญญานี้เป็นทางเลือกที่ควรพิจารณาอย่างจริงจัง
เพื่อให้การแต่งงานเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นคงทั้งในเรื่องของหัวใจและทรัพย์สิน การขอคำปรึกษาจาก ทนายความผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นก้าวสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ปรึกษาทนายความ คลิก >>ติดต่อเรา<<